ข้อมูลเกี่ยวกับ ท่าเรือสำคัญของประเทศไทย ที่บริหารจัดการโดย การท่าเรือแห่งประเทศไทย มีทั้งหมด 5 แห่ง โดยแต่ละแห่งมีลักษณะเด่นและบทบาทเฉพาะที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจและโลจิสติกส์ของประเทศในระดับสากล ดังนี้:
1. ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย)
ลักษณะเด่น
ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ รองรับสินค้าทั่วไป ตู้สินค้า และเรือ Ro/Ro
พื้นที่โรงพักสินค้า 12,000 ตารางเมตร
ท่าเทียบเรือหลากหลาย เช่น ท่าเรือสินค้าทั่วไป (1,179 เมตร) ท่าเรือชายฝั่ง (348 เมตร)
บริการตู้สินค้าระหว่างกรุงเทพฯ และแหลมฉบัง
ข้อจำกัด:
พื้นที่แออัดและไม่สามารถขยายพื้นที่เพิ่มได้ ส่งผลให้ต้องพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังสำหรับการขนส่งระหว่างประเทศ
2. ท่าเรือแหลมฉบัง
ลักษณะเด่น
ท่าเรือน้ำลึกหลักของไทย รองรับเรือขนาดใหญ่ เช่น Panamax และ Super-Post Panamax
มีแอ่งจอดเรือ 2 แอ่ง รองรับปริมาณสินค้าได้ถึง 10 ล้าน TEUs ต่อปี
รองรับสินค้าเทกอง ตู้สินค้า และเรือโดยสาร
โครงการพัฒนา
กำลังดำเนินการพัฒนาระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับได้ 18 ล้าน TEUs ต่อปี
3. ท่าเรือระนอง
ลักษณะเด่น
ประตูการค้าทางฝั่งทะเลอันดามัน เชื่อมโยงการค้ากับเอเชียใต้และแอฟริกา
มีเครื่องมือทุ่นแรง เช่น เครนยกตู้สินค้าและปลั๊กตู้เย็น
มีพื้นที่ลานวางสินค้าและตู้สินค้า 18,200 ตารางเมตร
บทบาทสำคัญ
สนับสนุนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) และเชื่อมโยงกับกลุ่ม BIMSTEC
4. ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน
ลักษณะเด่น
เป็นประตูการค้าระหว่างไทยกับประเทศลุ่มแม่น้ำโขง เช่น จีน ลาว เมียนมา
มีท่าเทียบเรือ 3 รูปแบบ ได้แก่ ทางลาดแนวดิ่งและแอ่งจอดเรือ
บทบาทสำคัญ
สนับสนุนการขนส่งสินค้าตามกรอบความร่วมมือเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง
5. ท่าเรือเชียงของ
ลักษณะเด่น
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงราย มีบริการ One Stop Service
รองรับเรือขนาด 80150 ตันกรอส และรถบรรทุกสินค้าจอดได้พร้อมกัน 10 คัน
บทบาทสำคัญ:
เป็นจุดเชื่อมโยงการค้ากับลาวและจีนผ่านแม่น้ำโขง
โครงการพัฒนาที่สำคัญ
การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในตลาดโลจิสติกส์โลก
การยกระดับท่าเรือกรุงเทพสู่ระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Transport)
การปรับปรุงท่าเรือระนองให้เป็นศูนย์กลางการค้าฝั่งตะวันตก
เทคโนโลยีสนับสนุน:
การใช้ Port Community System (PCS) เชื่อมโยงข้อมูลแบบไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานโลจิสติกส์
ข้อมูลนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งสินค้า รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้าระดับโลก.
BY : Tonkla
ที่มา :https://itbslogistics.com