ทฤษฎี Ansoff Matrix แผนที่นำทางสู่การเติบโตของธุรกิจ
Ansoff Matrix หรือที่เรียกว่า Product/Market Expansion Grid เป็นเครื่องมือที่นักธุรกิจและนักการตลาดใช้ในการวางแผนและวิเคราะห์กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ โดยพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ผลิตภัณฑ์ (Product) และ ตลาด (Market) เมื่อนำปัจจัยทั้งสองมาผสมผสานกัน จะได้กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ 4 แนวทางหลัก
ทำความรู้จักกับ Ansoff Matrix
Ansoff Matrix แบ่งกลยุทธ์การเติบโตออกเป็น 4 ช่อง ดังนี้
1. Market Penetration (เจาะตลาดด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์เดิมในตลาดเดิม อาจทำได้โดยการลดราคา เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย หรือทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น
- ตัวอย่าง: โคคา-โคลาเพิ่มยอดขายโดยการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือเปิดตัวขนาดบรรจุภัณฑ์ใหม่
2. Product Development (พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดเดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดเดิม อาจเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้อง
- ตัวอย่าง: Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม
3. Market Development (บุกตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการนำผลิตภัณฑ์เดิมไปขายในตลาดใหม่ อาจเป็นการขยายเข้าสู่ภูมิภาคใหม่ หรือกลุ่มลูกค้าใหม่
- ตัวอย่าง: Starbucks ขยายสาขาไปยังประเทศใหม่ๆ
4. Diversification (หลายด้านด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดใหม่): เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม
- ตัวอย่าง: Virgin Group เริ่มต้นจากธุรกิจดนตรี ก่อนขยายไปสู่ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ
เหตุใด Ansoff Matrix จึงสำคัญ?
- ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกลยุทธ์การเติบโต: ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแต่ละกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน
- ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ: ช่วยให้องค์กรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับทรัพยากรและความสามารถขององค์กรมากที่สุด
- สร้างโอกาสในการเติบโต: ช่วยให้องค์กรค้นพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจมองข้ามไป
- เป็นเครื่องมือในการวางแผนเชิงกลยุทธ์: ช่วยให้องค์กรวางแผนการดำเนินงานในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนำ Ansoff Matrix ไปใช้
ในการนำ Ansoff Matrix ไปใช้ประโยชน์ ควรทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น
- ความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์ของเราแข็งแกร่งเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดใหม่ได้หรือไม่
- ความต้องการของตลาด: ตลาดใหม่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ของเราหรือไม่
- ทรัพยากรที่มีอยู่: องค์กรมีทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินกลยุทธ์นั้นๆ หรือไม่
- ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกกลยุทธ์นั้นๆ
สรุป
Ansoff Matrix เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวางแผนการเติบโตของธุรกิจ ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ
ที่มา: Gemini