ระบบ E-POD (Electronic Proof of Delivery) คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 29 ม.ค. 2025
15 ผู้เข้าชม
คุณสมบัติหลักของระบบ E-POD
1.บันทึกข้อมูลการส่งมอบแบบเรียลไทม์
- ระบบช่วยให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทันที
2.ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature)
- ผู้รับสามารถลงลายเซ็นบนอุปกรณ์พกพาหรือแท็บเล็ตของผู้ส่งของได้ทันที
3.ถ่ายภาพหลักฐานการส่งมอบ
- สามารถแนบรูปภาพสินค้า ณ จุดส่งมอบเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม
4.GPS Tracking
- ตรวจสอบตำแหน่งที่แน่นอนของพนักงานส่งของขณะส่งสินค้า
5.QR Code / Barcode Scanning
- ใช้สแกนรหัสสินค้าเพื่อลดข้อผิดพลาดในการส่งมอบ
6.การแจ้งเตือนและรายงานอัตโนมัติ
- ส่งอีเมลหรือ SMS แจ้งเตือนการส่งมอบไปยังลูกค้า
7.บันทึกปัญหาการส่งมอบ
- หากเกิดปัญหา เช่น ไม่มีผู้รับสินค้า สามารถบันทึกเหตุผลลงในระบบเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ประโยชน์ของระบบ E-POD
- ลดการใช้เอกสารกระดาษ (Paperless)
- ป้องกันข้อพิพาทและความผิดพลาดในการส่งมอบ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขนส่งและลดต้นทุน
- สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
- รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือ WMS
ใครบ้างที่ควรใช้ระบบ E-POD?
- ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
- ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ (Food Delivery, Courier)
- ธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
- ผู้ผลิตและซัพพลายเชน
ที่มา: Chat Gpt
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน รวมถึงภาคธุรกิจขนส่งด้วย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์ บริษัทขนส่งสามารถมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยมีแนวทางที่น่าสนใจดังนี้
30 ม.ค. 2025
ในยุคดิจิทัลที่การซื้อขายสินค้าออนไลน์เติบโตอย่างก้าวกระโดด ธุรกิจขนส่งกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การเติบโตของแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Shopee, Lazada, และ JD Central ทำให้ความต้องการด้านการขนส่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เฟรนไชส์ขนส่งกลายเป็นโอกาสธุรกิจที่น่าจับตามอง
30 ม.ค. 2025
เป็นเทคโนโลยีที่จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงแบบ 360 องศา ให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในสถานที่จริง โดยผู้เข้าชมบูธสามารถสวมแว่น VR เพื่อสำรวจผลิตภัณฑ์ หรือทดลองใช้งานสินค้า
29 ม.ค. 2025