5 เหตุผลที่ทำให้ TikTok เป็นที่นิยมในหมู่นักการตลาด
อัพเดทล่าสุด: 18 ก.พ. 2025
189 ผู้เข้าชม
TikTok เป็นโซเชียลมีเดียในรูปแบบ Short Video Platform จากประเทศจีน ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ และมีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 500 ล้านคน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก ภายในเวลาเพียง 3 ปี แอพ TikTok มียอดดาวน์โหลดไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านครั้ง แน่นอนว่าด้วยจำนวน user ที่มีจำนวนมาก ทำให้นักการตลาดเล็งเห็นถึง โอกาส ในการสื่อสารและทำการตลาดที่หลากหลายมากขึ้น
สถิติน่าสนใจของ TikTok
นอกจากจำนวนผู้ใช้งานที่สูงมากแล้ว Tiktok ยังมีสถิติน่าสนใจอีกมากมาย ดังนี้
-ผู้ใช้ Tiktok กว่า 48% ในปี 2019 อยู่ในช่วงอายุ 18-24 ปี รองลงมาคือช่วงอายุ 13-17 ปี ซึ่งอยู่ที่ 36% และช่วงอายุ 25-34 ปีคิดเป็น 14%
-หากแบ่งตามเพศ ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมากถึง 75% และผู้ชาย 25%
-Tiktok ประเทศไทยในปี 2019 มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตมากขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับปี 2018
-ผู้ใช้ Tiktok กว่า 48% ในปี 2019 อยู่ในช่วงอายุ 18-24 ปี รองลงมาคือช่วงอายุ 13-17 ปี ซึ่งอยู่ที่ 36% และช่วงอายุ 25-34 ปีคิดเป็น 14%
-หากแบ่งตามเพศ ผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงมากถึง 75% และผู้ชาย 25%
-Tiktok ประเทศไทยในปี 2019 มีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตมากขึ้นถึง 100% เมื่อเทียบกับปี 2018
จะเห็นได้ชัดเลยว่ากลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่อยู่ Gen Y-Z หรืออายุระหว่าง 13-34 ปี และ Active user ในประเทศไทยก็เป็น Gen Z เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่ชอบบริโภคคอนเทนต์ที่สั้น สนุกสนาน และถูกผลิตออกมาในรูปแบบวิดีโอ
การมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและสถิติการใช้งานที่มากขนาดนี้ นักการตลาดทั้งหลายจึงไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสทำการตลาดบนสื่อออนไลน์นี้อย่างแน่นอน และเหตุผลที่ทำให้นักการตลาดหันมาสนใจแอพพลิเคชันนี้มีอะไรบ้าง?
การมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนและสถิติการใช้งานที่มากขนาดนี้ นักการตลาดทั้งหลายจึงไม่พลาดที่จะคว้าโอกาสทำการตลาดบนสื่อออนไลน์นี้อย่างแน่นอน และเหตุผลที่ทำให้นักการตลาดหันมาสนใจแอพพลิเคชันนี้มีอะไรบ้าง?
เหตุผลที่ 1 ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค
อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้น TikTok เป็น Short Video Platform ที่ให้ผู้ใช้งานผลิตคอนเทนต์สั้นๆ ออกมา ซึ่งเข้ากันได้ดีต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันของกลุ่ม Gen Y-Z ที่มีช่วงเวลาในการให้ความสนใจอยู่เพียง 8 วินาทีและอยู่กับสมาร์ตโฟนมากถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน คอนเทนต์สั้นๆ บน TikTok จึงได้รับความนิยมสูงการกลุ่มผู้คนเหล่านี้

เหตุผลที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพการทำ Influencer Marketing ได้ดี
Influencer Marketing นั้นเป็นการตลาดที่หลายๆ แบรนด์เลือกทำกัน เพราะความนิยมของ อินฟลูเอนเซอร์ และเซเลบริตี้บนสื่อออนไลน์อย่าง Facebook หรือ Instagram ที่สามารถใช้ชื่อเสียงสร้าง Brand Awareness ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ด้วยเสน่ห์และลูกเล่นต่างๆ บน TikTok ส่งผลให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถทำคอนเทนต์ที่แปลกใหม่ สะดุดตาได้มากขึ้น ทำให้แบรนด์ต่างๆ สามารถประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการได้กว้างขวางมากกว่าเดิม
เหตุผลที่ 3 มีตัวเลือกในการสร้างรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย
โซเชียลมีเดียที่ทุกคนรู้จักกัน สามารถให้แบรนด์ต่างๆ ทำการตลาดหรือโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่น Facebook Ad หรือ Google Ad ส่วน TikTok ก็มีการโฆษณาบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน ด้วยวัตถุประสงค์ในการสร้างอัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Traffic) และเพิ่มปฏิสัมพันธ์ (Enagement) เป็นหลัก TikTok จึงแบ่งกลุ่มโฆษณาเป็น 2 แบบ ดังนี้
โซเชียลมีเดียที่ทุกคนรู้จักกัน สามารถให้แบรนด์ต่างๆ ทำการตลาดหรือโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มนั้นๆ เช่น Facebook Ad หรือ Google Ad ส่วน TikTok ก็มีการโฆษณาบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน ด้วยวัตถุประสงค์ในการสร้างอัตราการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Traffic) และเพิ่มปฏิสัมพันธ์ (Enagement) เป็นหลัก TikTok จึงแบ่งกลุ่มโฆษณาเป็น 2 แบบ ดังนี้
1.โฆษณาทำยอด Reach ที่มี 3 แบบคือ
-Brand Takeover: รูปแบบโฆษณาที่สามารถ Reach ได้เยอะที่สุด เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีแคมเปญอยู่แล้ว และอยากโปรโมทข้อความสั้นๆ เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำก่อนที่ผู้ใช้งานจะเข้าไปยัง Feed
-TopView: เป็นรูปแบบโฆษณาที่สร้าง Reach ได้ดีอีกแบบหนึ่ง เหมาะกับธุรกิจที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว โดยโฆษณารูปแบบนี้จะแสดงผลเป็นวิดีโอความยาวไม่เกิน 60 วินาที อยู่ในตำแหน่งด้านบนของแอพพลิเคชันสามารถ Lead คนไปยังหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ และ User สามารถ Comment, Like, Share ได้เหมือนคอนเทนต์ทั่วไป
-In-Feed Ads: เป็นรูปแบบโฆษณาที่จะขึ้นมาระหว่างโพสต์วิดีโอบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานที่กำลังรับชม Contents อยู่ โดยสามารถ Lead ไปยังเว็บไซต์หรือ Landing Page ได้ด้วยเช่นกัน
-Brand Takeover: รูปแบบโฆษณาที่สามารถ Reach ได้เยอะที่สุด เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีแคมเปญอยู่แล้ว และอยากโปรโมทข้อความสั้นๆ เพื่อสร้างการรับรู้และตอกย้ำก่อนที่ผู้ใช้งานจะเข้าไปยัง Feed
-TopView: เป็นรูปแบบโฆษณาที่สร้าง Reach ได้ดีอีกแบบหนึ่ง เหมาะกับธุรกิจที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว โดยโฆษณารูปแบบนี้จะแสดงผลเป็นวิดีโอความยาวไม่เกิน 60 วินาที อยู่ในตำแหน่งด้านบนของแอพพลิเคชันสามารถ Lead คนไปยังหน้าเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ และ User สามารถ Comment, Like, Share ได้เหมือนคอนเทนต์ทั่วไป
-In-Feed Ads: เป็นรูปแบบโฆษณาที่จะขึ้นมาระหว่างโพสต์วิดีโอบนหน้าฟีดของผู้ใช้งานที่กำลังรับชม Contents อยู่ โดยสามารถ Lead ไปยังเว็บไซต์หรือ Landing Page ได้ด้วยเช่นกัน
2.โฆษณาสร้าง Engagement ผ่าน Ads Option 2 แบบคือ
-Hashtag Challenge: การทำโฆษณาในรูปแบบของแคมเปญ เพื่อให้เกิดการ Challenge ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือลุ้นรับรางวัลต่างๆ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ซึ่งสามารถสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ได้
-Branded Effect: รูปแบบของการโฆษณาที่มีเฉพาะใน TikTok เท่านั้น คือการสร้าง Effect วิดีโอขึ้นมาเอง ทั้งเสียงและภาพ เพื่อโปรโมทแคมเปญต่างๆ ซึ่งข้อดีก็คือถ้าแบรนด์สามารถสร้าง Effect ได้น่าสนใจ ก็จะทำให้มีคนเลือกมาใช้เล่นในคอนเทนต์ตัวเองเรื่อยๆ
ด้วยความหลากหลายนี้ในการทำโฆษณานี้เอง ทำให้ TikTok เริ่มกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักการตลาดเริ่มหันมาจับจองพื้นที่ในการทำการตลาด
-Hashtag Challenge: การทำโฆษณาในรูปแบบของแคมเปญ เพื่อให้เกิดการ Challenge ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรมเพื่อความบันเทิงหรือลุ้นรับรางวัลต่างๆ จนกลายเป็นกระแสไวรัล ซึ่งสามารถสร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ได้
-Branded Effect: รูปแบบของการโฆษณาที่มีเฉพาะใน TikTok เท่านั้น คือการสร้าง Effect วิดีโอขึ้นมาเอง ทั้งเสียงและภาพ เพื่อโปรโมทแคมเปญต่างๆ ซึ่งข้อดีก็คือถ้าแบรนด์สามารถสร้าง Effect ได้น่าสนใจ ก็จะทำให้มีคนเลือกมาใช้เล่นในคอนเทนต์ตัวเองเรื่อยๆ
ด้วยความหลากหลายนี้ในการทำโฆษณานี้เอง ทำให้ TikTok เริ่มกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่นักการตลาดเริ่มหันมาจับจองพื้นที่ในการทำการตลาด
เหตุผลที่ 4 กระแส Challenge Campaign
สามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้ ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Hashtag Challenge ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรม เพิ่ม Engagement ให้กับแบรนด์
ผู้ใช้งาน TikTok ก็มักจะชอบรอคอย Challenge ใหม่ๆ ที่จะมาทำให้พวกเขารู้สึกเพลิดเพลิน สำหรับ TikTok การสร้าง Challenge Campaign จึงเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แอพพลิเคชันนี้เกิดความเป็น Viral แบบออร์แกนิค
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Uniqlo ที่ได้สร้างแคมเปญชื่อว่า #UTPlayYourWorld ให้ผู้ใช้งานได้ร่วมสนุกกัน โดยใส่เสื้อยืดของ UT By Uniqlo แล้วเต้นประกอบเพลงตาม Efffect จนเกิดความ Viral ไปทั่วโลก และส่งผลให้ยอดขายของ Uniqlo พุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก
สามารถสร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้ ตามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Hashtag Challenge ให้ผู้ใช้งานร่วมกิจกรรม เพิ่ม Engagement ให้กับแบรนด์
ผู้ใช้งาน TikTok ก็มักจะชอบรอคอย Challenge ใหม่ๆ ที่จะมาทำให้พวกเขารู้สึกเพลิดเพลิน สำหรับ TikTok การสร้าง Challenge Campaign จึงเป็นหัวใจหลักที่ทำให้แอพพลิเคชันนี้เกิดความเป็น Viral แบบออร์แกนิค
ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Uniqlo ที่ได้สร้างแคมเปญชื่อว่า #UTPlayYourWorld ให้ผู้ใช้งานได้ร่วมสนุกกัน โดยใส่เสื้อยืดของ UT By Uniqlo แล้วเต้นประกอบเพลงตาม Efffect จนเกิดความ Viral ไปทั่วโลก และส่งผลให้ยอดขายของ Uniqlo พุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก
เหตุผลที่ 5 ในอนาคต TikTok จะสามารถเติบโตขึ้นอีกมาก
จากสถิติตัวเลขต่างๆ ของผู้ใช้งานในปัจจุบันที่มีจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ตอนนี้กลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นวัยรุ่น และ Firstjobber ที่อายุไม่มากนัก TikTok ก็กำลังมีการอัปเดตรูปแบบคอนเทนต์อยู่ตลอด
จากการสำรวจเมื่อช่วงต้นปี 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มมีอัตราการใช้งาน TikTok ของกลุ่มคนช่วงอายุ ผู้ใหญ่ มากขึ้นถึง 5 เท่า แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในช่วงอายุผู้ใช้งานมากขึ้น
หากท่านกำลังวางแผนทำการตลาดออนไลน์ TikTok จึงเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชันที่มองข้ามไม่ได้ ด้วยข้อดีที่สามารถเข้าถึงตลาดวัยรุ่น Gen Z คอนเทนต์ที่มากมาย และยังทำให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญต่างๆ ได้ด้วย
จากสถิติตัวเลขต่างๆ ของผู้ใช้งานในปัจจุบันที่มีจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ตอนนี้กลุ่มเป้าหมายหลักยังคงเป็นวัยรุ่น และ Firstjobber ที่อายุไม่มากนัก TikTok ก็กำลังมีการอัปเดตรูปแบบคอนเทนต์อยู่ตลอด
จากการสำรวจเมื่อช่วงต้นปี 2020 ในประเทศสหรัฐอเมริกาเริ่มมีอัตราการใช้งาน TikTok ของกลุ่มคนช่วงอายุ ผู้ใหญ่ มากขึ้นถึง 5 เท่า แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในช่วงอายุผู้ใช้งานมากขึ้น
หากท่านกำลังวางแผนทำการตลาดออนไลน์ TikTok จึงเป็นอีกหนึ่งแอพพลิเคชันที่มองข้ามไม่ได้ ด้วยข้อดีที่สามารถเข้าถึงตลาดวัยรุ่น Gen Z คอนเทนต์ที่มากมาย และยังทำให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญต่างๆ ได้ด้วย
BY : Jim
ที่มา : https://shorturl.asia/1O2R7
ภาพจาก TikTok : Mammotttt, Jeesintar, Kan Kantawit
บทความที่เกี่ยวข้อง
การจัดการพนักงานเจนใหม่ : เข้าใจ เข้าถึง และสร้างแรงจูงใจ
18 เม.ย. 2025
HRM ในยุคดิจิทัล : การปรับตัวเพื่อความยั่งยืนขององค์กร
18 เม.ย. 2025
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM): หัวใจของความสำเร็จในองค์กร
18 เม.ย. 2025