Milk Run กลยุทธ์ขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในคลังสินค้า
Milk Run กลยุทธ์ขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในคลังสินค้า
ในโลกของโลจิสติกส์และการจัดการคลังสินค้า Milk Run คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ถูกพูดถึงบ่อย โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องจัดการกับหลายซัพพลายเออร์ หรือมีการขนส่งหลายจุดในเส้นทางเดียวกัน
กลยุทธ์หลักของ Milk Run️
1.ลดเที่ยวขนส่งที่ไม่จำเป็น แทนที่จะส่งรถหลายคันไปยังจุดต่างๆ แยกกัน เรารวมเส้นทางให้รถคันเดียวไปส่งหรือรับหลายจุด
2.เพิ่มอัตราการบรรทุกสินค้า (Load Efficiency)ใช้ประโยชน์จากพื้นที่บนรถให้มากที่สุดในแต่ละเที่ยว
3.ลด Lead Time และ Stock ที่ไม่จำเป็นทำให้การส่งของเป็นแบบ Just In Time (JIT) ส่งตามรอบอย่างสม่ำเสมอ
4.ใช้ข้อมูลและระบบวางแผนเส้นทางใช้ระบบ Route Planning, GPS, หรือ ERP เพื่อจัดเส้นทางอย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการนำ Milk Run ไปใช้จริง
กรณีในโรงงานผลิต:
โรงงานหนึ่งมี Supplier อะไหล่อยู่ 5 แห่ง ห่างกันไม่เกิน 30 กิโลเมตร
หากไม่ใช้ Milk Run ต้องส่งรถ 5 คัน ไปรับวันละคัน
แต่พอใช้ Milk Run รถคันเดียวไปรับอะไหล่ทั้ง 5 จุดในเส้นทางเดียวกัน แล้วกลับมาโรงงาน
ผลลัพธ์คือ:
-ลดค่าน้ำมัน
-ลดคนขับ
-ประหยัดเวลา
-ลด CO (รักษาสิ่งแวดล้อม)
การนำไปใช้จริงในคลังสินค้า
1.วิเคราะห์เส้นทางและความถี่การขนส่งตรวจสอบว่ามีจุดรับหรือจ่ายสินค้าซ้ำซ้อนหรืออยู่ใกล้กันหรือไม่วางรอบการขนส่งแบบวนรับ/ส่งที่เหมาะสม
2.กำหนดรอบ Milk Run ที่ชัดเจนเช่น วันจันทร์-พุธ-ศุกร์ รับของจาก Supplier A, B, C ส่วน Supplier D, E รับวันอังคาร-พฤหัส
3.ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ใช้ GPS วางเส้นทาง ใช้ระบบ WMS หรือ Excel เพื่อติดตามปริมาณสินค้าแต่ละรอบ
4.ประเมินผลสม่ำเสมอ
-ดูว่าต้นทุนลดลงหรือไม่
-วัดเวลาที่ประหยัดได้
-สำรวจความพึงพอใจของลูกค้า หรือทีมงานภายใน
สรุป
Milk Run ไม่ใช่แค่การขนส่งแบบประหยัด แต่เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเปลี่ยนระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ หากจัดการวางแผนดี ๆ ก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้
ใครทำงานคลังสินค้าหรือโลจิสติกส์ ลองพิจารณาใช้ Milk Run ดูนะครับ อาจช่วยให้ต้นทุนลดลง กำไรเพิ่มขึ้นแบบไม่รู้ตัว!
บทความจาก Warehouse No.1 เพจสำหรับคนรักงานคลังสินค้าและโลจิสติกส์
รูปภาพประกอบจาก ChatGPT
โดย พี่ปี