ในธุรกิจก็เหมือนกับชีวิต การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่การเกิดขึ้นของธุรกิจที่ไม่เคยมีมาก่อนจนถึงไปจนถึงการปรับตัวให้กับระบบ หรือวิธีคิดแบบใหม่ ทำให้อาชีพในหลากหลายอุตสาหกรรมพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ซึ่งในหลายอาชีพเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
ในแวดวงงานด้านบัญชี และการเงินก็เช่นกัน โดยอาชีพบัญชีในปัจจุบันได้ก้าวไปไกลมากกว่าแค่การบันทึกบัญชี และการทำจ่ายเงินเดือน เช่นเดียวกันกับพาร์ทเนอร์ด้านการจัดซื้อ ทำให้อาชีพบัญชี และการเงินเข้ามามีบทบาทในงานด้านกลยุทธ์มากยิ่งขึ้นในการวางแผนให้กับธุรกิจในอนาคต ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนอาจจะมองงานบัญชีนั้นมีอนาคตที่ค่อนข้างมืดมนในโลกยุคดิจิทัล แต่แท้จริงแล้วด้วยเทคโนโลยีการจัดข้อมูลบนคลาวด์ เทคโนโลยี AI กระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงจะเป็นสิ่งที่จะยกระดับขั้นตอนการทำงานให้กับนักบัญชีในนุคดิจิทัลด้วยวิธีการใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพให้กับนักบัญชีทำได้งานได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยที่เทคโนโลยี AI สำหรับงานบัญชีเเหล่านี้ล้วนแต่นำมาใช้เพื่อที่จะสนับสนุนให้การทำงานง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นไม่ใช่นำมาใช้เพื่อที่จะทดแทนคน วันนี้ AI GEN จะพามารู้จักกับ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ และใช้ต่อ ยอดให้กับการทำบัญชียุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
1. AI ช่วยประมวลผลเอกสารบัญชี และการเงิน
เนื่องจากเอกสารทางบัญชี และการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใบแจ้งหนี้ หรือ Invoice ใบเสร็จรับเงิน หรือใบสั่งซื้อสินค้า และบริการต่างๆ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานบัญชีที่ต้องทำการตรวจสอบเอกสารทางการเงินเหล่านี้ และคีย์ข้อมูลจากเอกสารเหล่านี้เข้าไปในระบบ อีกทั้งยังต้องตรวจสอบว่าข้อมูลที่คีย์เข้าไปในระบบนั้นตรงกับข้อมูลในเอกสารหรือไม่ และยิ่งธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่ทำให้ทีมบัญชีเองจะต้องจัดการ และรับมือกับจำนวนเอกสารที่มากขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้การทำงานแบบเดิมที่ใช้การประมวลเอกสารแบบแมนนวล หรือใช้พนักงานในการตรวจสอบ และกรอกข้อมูลจึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
จึงเป็นที่มาของการนำ AI ประมวลผลเอกสารทางด้านบัญชีเข้ามาใช้กับขั้นตอนการทำงานนี้ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI-OCR เข้ามาใช้ในการดึง และประมวลผลข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารทางบัญชี และการเงินได้แบบอัตโนมัติ โดยที่ OCR สามารถจดจำ และดึงข้อความ ตัวอักษร ข้อมูลต่างๆจากเอกสารสแกน และรูปภาพได้แบบอัตโนมัติ
โดยที่ซอฟต์แวร์ OCR จะสามารถดึงและนำเสนอฟิลด์ (field) ของข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอกสาร PO ใบแจ้งหนี้ และ ใบเสร็จรับเงินได้แบบอัตโนมัติ เพื่อให้ทีมบัญชีสามารถจับคู่ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว หรือซอฟต์แวร์ OCR สามารถที่จะแปลงไฟล์ bank statement ที่เป็นไฟล์ PDF ให้เป็นไฟล์ excel หรือไฟล์ csv ได้เช่นกัน และสามารถส่งข้อมูลเข้าไปยังโปรแกรมบัญชี หรือ ERP ได้ทันที ทำให้การประมวลผลข้อมูลต่างๆทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
2. AI ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ
Big data เป็นที่มาสำคัญของการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้กับงานบัญชี และการเงิน โดยที่ Big data เป็นการนำฐานข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ในหลากหลายที่มารวมไว้ในฐานข้อมูลส่วนกลางที่ถูกเก็บไว้บนคลาวด์ส่วนกลางที่สามารถเข้าถึงได้เริ่มต้นจากการกรอกข้อมูลจากเอกสารทางบัญชีและการเงินต่างๆ จะเปลี่ยนเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมดเมื่อนำ AI เข้ามาใช้งาน ทำให้ข้อมูลถูกเก็บไว้ในที่เดียวกันที่นักบัญชีสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ทำให้นักบัญชีสามารถจัดการ และวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำบัญชี ซึ่งนักบัญชีสามารถที่จะวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ (Predictive analytics) และการวิเคราะห์เชิงแนะนำ (Prescriptive analytics) ให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้การวางแผนการเงินของธุรกิจมีประสิทธิภาพ แม่นยำ และสร้างผลกำไรได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และการวิเคราะห์เชิงแนะนำถือเป็นผลลัพธ์ของการนำ AI มาใช้ในการทำบัญชี ในระดับพื้นฐานการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์นั้นสามารถคาดการณ์สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ เช่น การพยากรณ์ยอดขาย และการให้ข้อมูลในเรื่องการวางแผนความต้องการ (Demand planning) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เพิ่มมูลค่าในการนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ ในทางตรงกันข้ามการวิเคราะห์เชิงแนะนำจะให้ข้อมูลดิบเพื่อชั่งน้ำหนักในการตัดสินใจทางการเงินกับอีกเรื่องหนึ่ง นักบัญชีจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ทั้ง 2 รูปแบบนี้เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากการนำ AI ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และโฟกัสไปที่เรื่องอนาคตของธุรกิจ
BY : NUN
ที่มา : https://aigencorp.com/5-ai-technology-for-accounting/