แชร์

ขนส่งสินค้าให้ถูกต้องตามหลัก 7Rs (7 Rights of Logistics)

อัพเดทล่าสุด: 29 ก.ค. 2024
338 ผู้เข้าชม

ขนส่งสินค้าให้ถูกต้องตามหลัก 7Rs (7 Rights of Logistics)

     ปัจจุบัน มีการขนส่งสินค้าหรือการขนย้ายสิ่งของเกิดขึ้นมากมายทั่วทุกมุมโลก การวางระบบและความเข้าใจในงานด้านโลจิสติกส์ที่ดี จะช่วยให้จัดการการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี และทำให้เกิดการขนส่งที่รวดเร็วและสะดวก ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำหลัก 7Rs ที่ใช้ในการบริหารด้านการขนส่ง ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกด้านโลจิสติกส์อย่าง The Chartered Institute of Logistics & Transport UK หลัก 7Rs เป็นหลักการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ได้ดียิ่งขึ้น

ที่มาของรูปภาพ : www.iok2u.com

หลักการทั้ง 7 ประการในงานโลจิสติกส์ ได้แก่

  • Right Product สินค้าที่ถูกต้อง
  • Right Quantity จำนวนที่ถูกต้อง
  • Right Condition สภาพที่ถูกต้อง
  • Right Place สถานที่ถูกต้อง
  • Right Customer ลูกค้าที่ถูกต้อง
  • Right Time ถูกเวลา
  • Right Price ราคาหรือต้นทุนที่ถูกต้อง

มาทำความเข้าใจแต่ละองค์ประกอบสำคัญในงานโลจิสติกส์ 7 ประการได้ดังต่อไปนี้

Right Product ขนส่งสินค้าที่ถูกต้อง

     Right Product หรือ การขนส่งสินค้าที่ถูกต้อง คือ การส่งของได้ตามความต้องการและคุณสมบัติของสินค้าที่ถูกต้อง โดยเริ่มจากความเข้าใจในตัวสินค้าหรือสิ่งของที่ต้องการขนส่ง เช่น สินค้าเป็นสินค้าประเภทใด เป็นสินค้าเปราะบางหรือสามารถทนทานต่อแดด ลม และฝนได้ดี สินค้าสามารถถอดประกอบได้หรือไม่ เป็นสินค้าขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมากเกินไปหรือไม่ และสินค้าเหล่านี้เหมาะกับการขนส่งประเภทใด ซึ่งการมีความรู้และความเข้าใจในตัวสิ่งของที่ต้องการขนส่งนั้นจะช่วยทำให้จัดการเวลาและควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี

Right Quantity จำนวนที่ถูกต้อง

     การรู้จำนวนสิ่งของหรือสินค้าที่ต้องการขนส่งอย่างถูกต้องและเหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง ทำให้ควบคุมต้นทุนทางธุรกิจได้และทำให้เกิดการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ หากคุณเป็นภาคธุรกิจหรือผู้ขนส่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขนส่งไปตามจำนวนที่ถูกต้อง เช่น จำเป็นต้องรู้ว่าคลังสินค้าปลายทางสามารถเก็บหรือวางสินค้าได้เป็นจำนวนเท่าใด เพื่อบริหารจัดการการขนส่งให้เป็นไปอย่างราบรื่น

Right Condition ขนส่งในสภาพที่ถูกต้อง

     การขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางในสภาพที่ถูกต้องนั้นเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่ง ผู้ให้บริการขนส่งมีหน้าที่ในการจัดการและรักษาสภาพสิ่งของหรือสินค้าให้คงอยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว เป็นไปได้ที่สินค้าอาจเกิดความเสียหายหรือสูญเสียสภาพเดิมระหว่างการขนส่งได้ หน้าที่ของผู้ขนส่งจึงต้องทำให้การขนส่งแต่ละครั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด

Right Place ขนส่งไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง

     ผู้ให้บริการขนส่งทุกบริษัทจำเป็นต้องขนส่งสินค้าให้ถึงปลายทางตามที่ตกลงร่วมกันหรือที่ระบุไว้ ผู้ขับหรือพนักงานจัดส่งมีส่วนสำคัญในการขนส่งไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง และนอกจากนี้ บริษัทขนส่งยังสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการได้ เช่น ระบบติดตามการจัดส่งสินค้า (delivery tracking) ที่สามารถติดตามสินค้าและยืนยันด้วยหลักฐานว่าสินค้าถึงปลายทางตามที่ระบุ

Right Customer ขนส่งเพื่อลูกค้าที่ถูกต้อง

     นอกจากเรื่องประสิทธิภาพในการขนส่งแล้ว การส่งสินค้าให้ถูกตัวผู้รับก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ให้บริการขนส่งจำเป็นต้องเข้าใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย มองหาและพยายามที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ

Right Time ถูกเวลา

     การขนส่งในยุคปัจจุบัน เวลาในการขนส่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะผู้ให้บริการมักถูกคาดหวังและถูกเปรียบเทียบกับบริษัทขนส่งอื่นๆ ในเรื่องของความเร็วในการขนส่งอยู่เสมอ ผู้ให้บริการขนส่งจึงจำเป็นที่จะพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีการขนส่งที่รวดเร็วและทันต่อการแข่งขันอยู่เสมอ สามารถนำเทคโนโลยีติดตามการขนส่งและระบบแผนที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ ช่วยให้คำนวณเส้นทางการขนส่งที่ถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น ทำให้สินค้าถึงปลายทางได้อย่างรวดเร็ว

Right Price ต้นทุนที่ถูกต้อง

     ต้นทุนหรือราคานั้นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกบริการหรือธุรกิจ ไม่ใช่แค่ธุรกิจขนส่ง ผู้ให้บริการจึงควรคำนึงถึงต้นทุนและจัดการควบคุมบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยนำปัจจัยอื่นๆ เข้ามาพิจารณาประกอบ เช่น หากต้องการให้การขนส่งนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว จะมีต้นทุนอย่างไรบ้าง หรือการขนส่งสินค้าที่เปราะบาง ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ อาจมีต้นทุนในการขนส่งที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

ที่มาของรูปภาพ : stock.adobe

ข้อดีของการจัดการ Supply Chain อย่างมีประสิทธิภาพ

     เพื่อให้ผู้ให้บริการขนส่งปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันที่รวดเร็วในปัจจุบัน สามารถนำหลักการ 7Rs มาปรับใช้ในการให้บริการ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการการควบคุมการขนส่งตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างข้อดีจากการจัดการระบบ Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่
  • ความคุมคุณภาพของบริการได้ เช่น การควบคุมงานบริการเพื่อให้เกิดการขนส่งที่รวดเร็ว ถูกเวลา ขนส่งสินค้นที่ถูกต้อง สภาพสินค้าถูกต้อง และขนส่งไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง
  • ระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น การนำเทคโนโลยีหรือระบบงานมาปรับใช้ จะช่วยให้ผู้ให้บริการจัดการการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการทำงานอย่างเป็นระบบ ควบคุมต้นทุนและเวลาในการขนส่งได้ดียิ่งขึ้น
  • ตามทันความต้องการของตลาด การวางระบบตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ผู้ให้บริการมีข้อมูลและตามทันความต้องการของลูกค้าได้
  • ลดต้นทุน การมีระบบการจัดการโลจิสติกส์ที่ดีและการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงได้

     Deliveree หนึ่งในผู้นำด้านการขนส่งในประเทศไทยได้เห็นความสำคัญในการให้บริการขนส่งสินค้าตามหลัก 7Rs เราจึงได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาบริการขนส่งเราให้ผู้ประกอบการและลูกค้าเข้าถึงการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ในราคาที่ประหยัดและคุ้มค่าที่สุด

 

 

BY : NOON (CC)
ที่มาของข้อมูล : deliveree , www.iok2u.com , stock.adobe.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
ซัพพลายเชนท้องถิ่น vs. ซัพพลายเชนระดับโลก
ในยุคที่การค้าขายและการผลิตขยายตัวไปทั่วโลก ซัพพลายเชนกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ธุรกิจต้องเลือกระหว่างการพึ่งพาซัพพลายเชนท้องถิ่นที่มีระยะทางใกล้กับการพึ่งพาซัพพลายเชนระดับโลกที่มีการเชื่อมโยงในหลายประเทศ
26 ธ.ค. 2024
คลังสินค้าคืออะไร ? ความสำคัญเบื้องหลังของธุรกิจ
คลังสินค้าเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจสมัยใหม่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บ จัดการ และกระจายสินค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารสินค้าคงคลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
25 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ