แชร์

6 เทคโนโลยี ที่จะมาเปลี่ยนการขนส่ง

อัพเดทล่าสุด: 29 ก.ค. 2024
250 ผู้เข้าชม

มีองค์ประกอบที่พอสรุปได้ด้วยกัน 6 ประการ ดังนี้

1. Vehicle-to-Infrastructure (V2I) Communication

เป็น การเชื่อมโยงรถยนต์บรรทุกกับเทคโนโลยีพื้นฐานต่างๆ ที่เป็นไปได้ เช่น ระบบ GPS ระบบตรวจจับตำแหน่งรถยนต์บรรทุกและตำแหน่งถนนแบบอัตโนมัติ สามารถช่วยในการตรวจสอบความคับคั่งของการจราจร สร้างให้เกิดความปลอดภัยในการขนส่ง เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการที่สูงขึ้นของรถยนต์บรรทุกและผู้ขับขี่

2. Vehicle-to-Vehicle (V2V) Communication

ความเชื่อมโยงด้วยระบบติดต่อสื่อสารระหว่างรถยนต์บรรทุกด้วยกันขณะออกให้บริการ ช่วยลดความเสี่ยงและลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยในการแบ่งปันข้อมูลการจราจร ตำแหน่งเส้นทางการเดินรถ ความสามารถในการใช้ความเร็ว การติดตั้งระบบควบคุมการขับขี่ (Cruise Control System) ระบบการหลบหลีกการชน (Collision Avoidance Systems) และระบบเรดาร์ (Radar System) นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงและอุบัติเหตุแล้ว ยังช่วยในเรื่องความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์บรรทุก ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้บ้างแล้ว

3. Remote Diagnostics

เทคโนโลยีควบคุมรถยนต์บรรทุกทางไกลด้วยอุปกรณ์ทางเทคนิค ช่วยให้การดูแล บำรุงรักษารถเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้งานรถบรรทุกโดยไม่จำเป็น ลดเวลาการให้บริการและลดต้นทุนการดูแล บำรุงรักษา รถยนต์บรรทุก ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสภาพรถยนต์บรรทุก ลักษณะการใช้รถยนต์บรรทุก สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ ให้โรงงานผลิต สามารถสร้างการควบคุมทางไกลผ่านเครื่องมืออีเล็กทรอนิกส์

4. Autonomous driving

เทคโนโลยีรถยนต์บรรทุกขับเคลื่อนด้วยตัวเอง เป็นเทคโนโลยีที่มีการทำงานผสมผสานกันระหว่างเรดาร์หรือเลเซอร์ตรวจจับ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว กล้อง เซ็นเซอร์ รวมถึงแผนที่ 3 มิติ ซึ่งอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีทั้งหมดเหล่านี้ จะเปลี่ยนระบบการขนส่งไปสู่ยุคแห่งการที่รถยนต์บรรทุกสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวมันเองหรือไร้คนขับ เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมการขนส่ง ซึ่งการทดสอบบนถนนสายแรกได้มีการเริ่มต้นไปแล้ว

5. The Integrated Supply Chain

มีความเป็นไปได้ว่าอีกไม่นานจากนี้ จะมีความเชื่อมโยงกันของข้อมูลด้านโลจิสติกแบบเรียลไทม์ ตลอดทั่วผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ทั้งจากโรงงานผลิตสู่คลังเก็บสินค้า จากคลังเก็บสินค้าสู่ผู้จัดจำหน่าย และจากผู้จัดจำหน่ายไปจนสิ้นสุดยังลูกค้าผู้ต้องการใช้สินค้า เมื่อใดที่ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อสินค้าไปยังโรงงานผู้ผลิต โรงงานผู้ผลิตจะสามารถส่งข้อมูลการส่งสิ้นค้าให้แก่ผู้ลูกค้าได้ทันที หากมีปัญหาด้านการจราจรหรืออุบัติเหตุ ที่จะทำให้การส่งสินค้าคลาดเคลื่อนไป ระบบสามารถตรวจสอบและปรับเปลี่ยนการขนส่งใหม่และเวลาให้แก่ลูกค้าใหม่ในทันที

6. Automated Freight Matching

ความสามารถในการสื่อสารข้อมูลระหว่างกันของระบบการบริหารจัดการที่รวดเร็วกับผู้จัดส่งสินค้า ด้วยระบบการจัดเก็บข้อมูล Cloud และการจับคู่ของระบบขนส่งแบบอัตโนมัติ ช่วยให้ทราบว่ารถยนต์บรรทุกสามารถบรรทุกสินค้าได้มากน้อยแค่ไหนเพียงใดผ่านตัวเซ็นเซอร์ สามารถรู้ว่าพื้นที่ของรถยนต์บรรทุกสามารถรับน้ำหนักได้เพียงพอหรือไม่ พร้อมให้บริการขนส่งได้ตามกำหนดการของรถยนต์บรรทุก สามารถประมาณการการส่งสินค้าจะมาถึงได้อย่างแม่นยำ รวมถึงให้ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถสื่อสารกันบนระบบฐานข้อมูลดิจิทัล สามารถจับคู่ของระบบการขนส่ง จาก Platform สู่ Platform อย่างลงตัว

 


BY : FAH

ที่มา : 360truck


บทความที่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบของ AI ต่อตลาดแรงงาน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
26 ธ.ค. 2024
Google สู้ ChatGPT การแข่งขันของยักษ์ใหญ่ AI
การแข่งขันระหว่าง Google และ ChatGPT เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
26 ธ.ค. 2024
ซัพพลายเชนท้องถิ่น vs. ซัพพลายเชนระดับโลก
ในยุคที่การค้าขายและการผลิตขยายตัวไปทั่วโลก ซัพพลายเชนกลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ธุรกิจต้องเลือกระหว่างการพึ่งพาซัพพลายเชนท้องถิ่นที่มีระยะทางใกล้กับการพึ่งพาซัพพลายเชนระดับโลกที่มีการเชื่อมโยงในหลายประเทศ
26 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ