5 ประเภทโลจิสติกส์ สำคัญ ใน ธุรกิจโลจิสติกส์ ปัจจุบัน
5 ประเภทของโลจิสติกส์ ที่ได้พบเจอมากที่สุดในทุกวันนี้
1. Inbound Logistics
โลจิสติกส์ระหว่างผู้ผลิตกับบริษัท ตัวอย่างเช่น สำหรับบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ โลจิสติกส์ภายในทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกชิ้นส่วนตั้งต้นหรืออุปกรณ์เพื่อประกอบเป็นชิ้นส่วน ให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อให้งานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์เสร็จสมบูรณ์และถึงมือบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์
2. Outbound Logistics
โลจิสติกส์ระหว่างผู้ผลิต บริษัทขนส่ง และผู้รับปลายทางแบบ End userโดย Outbound logistics จะทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกวัตถุดิบตั้งต้นให้บริษัทผู้ผลิต แล้วเมื่อผู้ผลิตผลิตเสร็จ ก็จะดำเนินการส่งถึงผู้รับปลายทางที่เป็น end userOutbound logistics จะต่างจาก Inbound logistics ตรงที่จะเพิ่มบริการส่งถึงผู้ใช้งานสุดท้ายของระบบเลย ไม่ได้ส่งไปที่บริษัทแล้วจบ
3. Reverse Logistics
การขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้าใดๆ จากผู้ใช้งานสุดท้าย (End user) กลับมาที่บริษัทต้นทางหรือผู้ผลิตเลยโดย Reverse logistics จะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนคืนสินค้าเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่และนำชิ้นเก่ากลับมาทำลายทิ้งหรือรีไซเคิลส่วนมากธุรกิจที่ใช้บริการ Reverse logistics เป็นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
4. Third-party Logistics Provider (3PL)
คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ หรือ Outsource ที่ให้บริการโลจิสติกส์ ที่ดูแลตั้งแต่
-จัดเก็บสินค้าและคลังสินค้า (Inventory management & Warehousing)
-หยิบและแพ็กสินค้าตามออเดอร์สั่งซื้อ (Picking & Packing)
-ขนส่งและการกระจายสินค้า (Transportation)
-จัดการด้านศุลกากร (Freight forwarding)
-และบริการอื่นๆ เช่น ส่งคืนสินค้าถึงต้นทาง หรือ Reverse logistics
ข้อดีของ โลจิสติกส์แบบ 3PL คือ เจ้าของธุรกิจหรือสินค้าสามารถโฟกัสแค่การผลิตสินค้า การตลาด และการขาย และให้บริษัท 3PL เป็นผู้ดูแลการขนส่งและสต็กสินค้าแทน
5. Fourth-party Logistics Provider (4PL)
ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ให้บริการทุกอย่างแบบ 3PL แต่เพิ่มเติมคือ ยกระดับโดยมีการประเมินการทำงาน ออกแบบพัฒนา จัดทำ และติดตาม supply chain ทั้งหมดของธุรกิจนั้นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดรวมถึง 4PL จะส่งออกหรือ outsource งาน logistics ให้กับบริษัท logistics รายย่อยด้วย ต่างจาก 3PL ที่ทำงานด้วยตัวบริษัทเอง
BY : FAH
ที่มา : cartrack