แชร์

มาตรฐานคลังสินค้าสำหรับสินค้าอันตราย (DG Warehouse)

อัพเดทล่าสุด: 11 ก.ย. 2024
1904 ผู้เข้าชม

คลังสินค้าสำหรับสินค้าอันตราย หรือ DG Warehouse

    คลังสินค้าสำหรับสินค้าอันตราย นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาความปลอดภัยของบุคลากร สินค้า และสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสินค้าอันตรายมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ เช่น การระเบิด การติดไฟ การกัดกร่อน หรือการเป็นพิษได้ ดังนั้น คลังสินค้าประเภทนี้จึงต้องมีการออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

มาตรฐานที่สำคัญสำหรับ DG Warehouse

    มาตรฐานที่ใช้ในการควบคุมและกำกับดูแลคลังสินค้าสำหรับสินค้าอันตรายนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศและแต่ละองค์กร แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีมาตรฐานที่สำคัญดังต่อไปนี้:

มาตรฐานสากล:

  • UN Model Regulations: เป็นมาตรฐานสากลที่กำหนดโดยสหประชาชาติ สำหรับการจัดแบ่งประเภท การบรรจุ และการขนส่งสินค้าอันตราย
  • IMDG Code: เป็นรหัสระหว่างประเทศสำหรับการขนส่งสินค้าอันตรายทางทะเล
  • ICAO Technical Instructions: เป็นคำแนะนำทางเทคนิคขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ สำหรับการขนส่งสินค้าอันตรายทางอากาศ

มาตรฐานในประเทศ:

  • กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ: แต่ละประเทศจะมีกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและขนส่งสินค้าอันตราย เช่น กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ
  • มาตรฐานของหน่วยงานภาครัฐ: หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะมีการกำหนดมาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับคลังสินค้าสินค้าอันตราย

องค์ประกอบสำคัญของ DG Warehouse ที่เป็นไปตามมาตรฐาน

การออกแบบและก่อสร้าง:

  • ทำเลที่ตั้ง: ต้องอยู่ห่างไกลจากแหล่งชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล และแหล่งน้ำ
  • โครงสร้างอาคาร: ต้องมีความแข็งแรงทนทาน สามารถป้องกันการระเบิดและไฟไหม้ได้
  • ระบบระบายอากาศ: ต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อป้องกันการสะสมของก๊าซอันตราย
  • ระบบดับเพลิง: ต้องมีระบบดับเพลิงที่เหมาะสมกับชนิดของสินค้าอันตราย

การจัดเก็บ:

  • การแบ่งโซน: ต้องแบ่งโซนการจัดเก็บสินค้าตามชนิดและอันตรายของสินค้า
  • การติดฉลาก: ต้องติดฉลากแสดงชนิดและอันตรายของสินค้าอย่างชัดเจน
  • การจัดเรียงสินค้า: ต้องจัดเรียงสินค้าให้มีความเสถียรและไม่กีดขวางทางเดิน

การควบคุมปริมาณ:

  • การจำกัดปริมาณ: ต้องจำกัดปริมาณการจัดเก็บสินค้าอันตรายในแต่ละโซน

บุคลากร:

  • การฝึกอบรม: บุคลากรต้องได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานกับสินค้าอันตราย
  • อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล: บุคลากรต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม

ระบบรักษาความปลอดภัย:

  • การเฝ้าระวัง: ต้องมีระบบเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
  • การควบคุมการเข้าออก: ต้องควบคุมการเข้าออกของบุคคลและยานพาหนะ

แผนฉุกเฉิน:

  • การวางแผน: ต้องมีแผนฉุกเฉินสำหรับการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ การรั่วไหลของสารเคมี
  • การฝึกซ้อม: ต้องมีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำ

สรุป

    การปฏิบัติตามมาตรฐานสำหรับคลังสินค้าสินค้าอันตรายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและปกป้องความปลอดภัยของทุกคน การลงทุนในการออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานคลังสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างปลอดภัยและมีความยั่งยืน

 

 

 

 

BY: MANthi
ที่มา: Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
ระบบ Pick to Light: เทคโนโลยีช่วยหยิบสินค้าอย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ในโลกของโลจิสติกส์และการจัดการคลังสินค้า ความเร็วและความแม่นยำเป็นสิ่งสำคัญ ระบบหนึ่งที่ช่วยตอบโจทย์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ ระบบ Pick to Light ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การหยิบสินค้าในคลังเป็นไปอย่างง่ายดาย รวดเร็ว และลดความผิดพลาดได้อย่างมาก
Blue_and_Pink_Retro_Illustrative_Great_Square_Pillow.png BS Rut กองรถ
29 เม.ย. 2025
Break Down คืออะไรในงานคลังสินค้า?
Break Down คืออะไรในงานคลังสินค้า?
Notify.png พี่ปี
25 เม.ย. 2025
จากโกดังสู่ศูนย์กลางโลจิสติกส์อัจฉริยะ: คลังสินค้าในปี 2030 จะเป็นอย่างไร?
ในอดีต "คลังสินค้า" อาจถูกมองว่าเป็นเพียงพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับเก็บของ แต่เมื่อเรากำลังมุ่งหน้าสู่ปี 2030 คลังสินค้ากำลังเปลี่ยนบทบาทครั้งใหญ่ จากเพียงจุดพักสินค้า กลายเป็น ศูนย์กลางโลจิสติกส์อัจฉริยะ ที่มีบทบาทสำคัญต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
23 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ