แชร์

9 ข้อ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเตรียมขนส่งสินค้า Oversized

อัพเดทล่าสุด: 11 ก.ย. 2024
244 ผู้เข้าชม

    สินค้า Oversized คือ สินค้าหรือวัตถุที่มีขนาดหรือมิติที่เกินกว่าข้อกำหนดมาตรฐานของการขนส่งปกติ ซึ่งมักจะมีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากจนต้องใช้ยานพาหนะหรืออุปกรณ์เฉพาะในการขนส่ง ในการขนส่งสินค้าประเภทนี้มักต้องการการวางแผนอย่างละเอียด เช่น การขอใบอนุญาตพิเศษ การใช้เส้นทางเฉพาะ และการเตรียมยานพาหนะที่เหมาะสม

9 ข้อ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเตรียมขนส่งสินค้า Oversized

นี่คือ 9 ข้อที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเตรียมขนส่งสินค้า Oversized :

1.ขนาด น้ำหนัก และการวัดระยะ

     สำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากนั้น สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือขนาด ระยะ และน้ำหนักที่แม่นยำของสินค้า เนื่องจากผู้รับขนส่งสินค้าต้องวางแผนการยกขนและขนถ่ายสินค้า และยังต้องจัดวางให้น้ำหนักของสินค้ามีความสมดุลกัน 

      ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายการขนส่งที่เกี่ยวข้องกับขนาดและน้ำหนักสูงสุดของการขนส่งในแต่ละพื้นที่ และตรวจสอบขนาดและน้ำหนักของสินค้าอย่างละเอียด เพื่อเลือกยานพาหนะและเส้นทางที่เหมาะสม 

2.การตรึงและการยกขนสินค้า

     การรัด ตรึง หรือทำให้สินค้าอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ระหว่างปฏิบัติการเที่ยวบินก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยของสินค้า เครื่องบิน และลูกเรือ เพื่อความปลอดภัยของสินค้าและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุระหว่างการขนส่ง ซึ่งต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์เฉพาะสำหรับสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะสินค้าขนาดใหญ่ 

3.บรรจุภัณฑ์

     การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าที่มีน้ำหนักมากมีขั้นตอนมากมายและมีความซับซ้อนสูง โดยผู้ส่งสินค้าทุกคนต่างก็ต้องการให้สินค้าได้รับการขนส่งถึงปลายทางในสภาพสมบูรณ์ ไม่ว่าสภาพอากาศ ขั้นตอนการยกขนและขนถ่ายสินค้า 

     บรรจุภัณฑ์ต้องไม่ปิดผนึกแบบกันอากาศถ่ายเท เนื่องจากความกดอากาศในห้องบรรทุกสินค้าจะผกผันในช่วงการไต่ระดับและการลดระดับของเครื่องบิน ซึ่งบรรจุภัณฑ์จะได้รับความเสียหายหากความกดอากาศภายในและภายนอกหีบห่อไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ที่เรียกกันว่าพลาสติกสุญญากาศจะขยายตัวขณะที่เครื่องบินไต่ระดับและหดตัวเมื่อเครื่องบินลดระดับ ด้านบรรจุภัณฑ์ของสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าที่มีน้ำหนักมากที่ต้องโหลดด้วยเครื่องมือยกขนสินค้าแบบพิเศษนั้นมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง สินค้าประเภทนี้จึงต้องใช้การเชื่อมต่อโดยตรงกับจุดเกี่ยวตะขอที่ติดกับตัวสินค้า

4.อุปกรณ์ยกขนสินค้า

     สินค้าแต่ละประเภทต้องใช้วิธีการยกขนและขนถ่ายที่แตกต่างกันไป การวาดแบบทางเทคนิคหรือแบบร่างแบบสามมิตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในการตัดสินใจว่าสินค้านั้นๆ ควรใช้อุปกรณ์ยกขนสินค้าแบบใด ผู้เชี่ยวชาญจะต้องทำการออกแบบและจัดทำโครงสร้างพิเศษขึ้นเพื่อให้การยกขนและขนส่งสินค้าเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการใช้ทางลาด ระบบราง และเครนเคลื่อนที่ หากเห็นว่ามีความเหมาะสม

5.สินค้าอันตราย

     วัตถุและสินค้าบางอย่าง เช่น ระเบิด ก๊าซความดัน ของเหลวไวไฟ และอื่นๆ จัดเป็นสินค้าอันตราย สินค้าประเภทนี้ต้องอาศัยการเตรียมความพร้อมและบรรจุภัณฑ์แบบพิเศษเพื่อให้สอดรับกับข้อกำหนดของ ICAO และ IATA สินค้าอันตรายบางชนิดถูกห้ามขนส่งทางอากาศไม่ว่ากรณีใดก็ตาม โดยหากทำการแจ้งประเภทของสินค้าที่อยู่ในเอกสารแสดงรายการบรรจุหีบห่อกับสายการบินได้เร็วเท่าไร การขนส่งก็จะถูกจัดการได้อย่างไร้ปัญหาและตรงเวลามากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือจะเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสากล

6.สภาพแวดล้อมของเที่ยวบิน

     สินค้าบางชนิดอาจไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและความกดอากาศ หากสินค้าที่จะทำการขนส่งมีข้อจำกัดหรือข้อพึงระวังด้านสภาพแวดล้อมในห้องบรรทุกสินค้าควรแจ้งให้สายการบินทราบโดยเร็วที่สุด ผู้เชี่ยวชาญจะต้องพร้อมในการหารือเรื่องนี้อยู่เสมอ เพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุด

7.การลงพื้นที่สำรวจ

     บางครั้งข้อมูลทั่วไปก็ไม่เพียงพอ ที่จะการันตี ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการขนส่งแบบไร้รอยต่อได้ ผู้เชี่ยวชาญจะต้องมีการลงพื้นที่เพื่อความมั่นใจ การลงพื้นที่สำรวจเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการทางด้านวิศวกรรมและการประเมินการขนส่งสินค้า เพื่อให้ได้วิธีที่ดีกว่าและมองเห็นภาพรวมของขนาดอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งาน

8.ท่าอากาศยาน การขอใบอนุญาต โครงสร้างพื้นฐาน และกำลังคน

     โครงสร้างพื้นฐานของสนามบินมีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หมายถึง ควรมีความเหมาะสมด้านพื้นที่ในการยกขนและขนถ่ายสินค้า ทางขึ้น-ลงเครื่องบินที่ต้องสอดรับกับน้ำหนักการลงจอดของเครื่องบินที่วางแผนไว้ ทางขับและลานจอดต้องพร้อมสำหรับขั้นตอนการโหลดและการขนถ่ายสินค้า รวมไปถึงต้องมีที่พักสำหรับลูกเรือ

9.การปฏิบัติการหลังเที่ยวบิน

     เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าได้รับการจัดการอย่างถูกต้องหลังจากการขนส่งทางอากาศ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบและดำเนินการให้สอดคล้องกับขั้นตอนมาตรฐานและข้อกำหนดเฉพาะสำหรับสินค้าขนาดใหญ่

สรุป

     การเตรียมขนส่งสินค้า Oversized จะต้องวางแผนและการจัดการที่เป็นระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะถูกขนส่งอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเตรียมการที่ดีสำหรับการขนส่งสินค้า จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา และช่วยให้กระบวนการขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น

 

 

 

BY : NOON (CC)

ที่มาของข้อมูล : airfreight-logistics.com  , chatgpt.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งถึงมาแรงในยุคนี้?
ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสินค้าจึงกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุด โดยเฉพาะ “แฟรนไชส์ขนส่ง” ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลก แต่ทำไมธุรกิจนี้ถึงมาแรง?
ร่วมมือ.jpg Contact Center
18 เม.ย. 2025
ประกันพัสดุในช่วงสงกรานต์: เรื่องเล็กที่ไม่ควรมองข้าม
เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับคนไทยทั่วประเทศ หลายคนใช้โอกาสนี้เดินทางกลับบ้าน หยุดพักผ่อน หรือส่งของขวัญไปให้ครอบครัวและคนที่รัก แต่ในขณะที่เรากำลังวางแผนฉลองวันหยุด การจัดส่งพัสดุก็อาจเผชิญกับความเสี่ยงที่หลายคนมองข้าม โดยเฉพาะเรื่อง “ประกันพัสดุ”
ร่วมมือ.jpg Contact Center
16 เม.ย. 2025
ธุรกิจขนส่งกับความปลอดภัยของพนักงานช่วงสงกรานต์: ส่งของให้ดี ต้องดูแลคนให้ได้
เทศกาลสงกรานต์คือช่วงเวลาแห่งความสุขของคนไทย แต่ในมุมของธุรกิจขนส่ง นี่คือช่วงเวลาท้าทายที่สุดของปี ถนนแน่น รถติด อุบัติเหตุสูง และคำสั่งส่งของไม่ลดลงตามวันหยุด ในขณะที่หลายคนหยุดพัก พนักงานขนส่งจำนวนมากยังคงต้องออกไปทำงาน ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ