Copilot มีชื่อเต็มว่า Microsoft Copilot ซึ่งใช้ความสามารถของ Generative AI ในการทำงาน โดยที่ Generative AI อธิบายง่าย ๆ คือ เป็น AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ เช่น สร้างสรรค์ไอเดียในการออกแบบ, ครีเอตรูปภาพตามคำสั่ง, ตัดต่อวิดีโอ หรือแม้กระทั่งช่วยแต่งเพลง
1. ช่วยเขียน หรือสร้างสรรค์เนื้อหา บน Microsoft Word
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น หากเราต้องการเขียนสคริปต์เพื่อพูดเปิดตัวสินค้าใหม่
เราสามารถสั่งให้ Copilot บน Microsoft Word ช่วยเขียนได้
ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงกดเลือก Copilot บนแถบเครื่องมือด้านบน
แล้วทำการป้อนคำสั่งว่า ต้องการให้ Copilot ช่วยเขียนอะไร โทนการเล่าเรื่องแบบไหน ความยาวเท่าไร
เช่น ช่วยเขียนสคริปต์พูดเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยใช้ภาษาเป็นทางการ ความยาว 3 นาที
ซึ่งถ้าเรามีรายละเอียดของสินค้าตัวใหม่ ก็สามารถแนบไฟล์ เพื่อให้ Copilot เรียนรู้ และนำไปเขียนได้
เพียงเท่านี้ สคริปต์พูดเปิดตัวสินค้าที่เราต้องการ ก็จะได้ออกมาทันที
และถ้าเรายังไม่พอใจ ก็สามารถสั่งให้ Copilot แก้ไขไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจได้
นอกจากนี้ Copilot บน Microsoft Word ยังมีความสามารถอื่น ๆ
เช่น ช่วยแปลงเนื้อหาต่าง ๆ เป็นตาราง และสรุปเนื้อหาออกมาเป็นข้อ ๆ ได้อีกด้วย
2. ช่วยทำสไลด์ใน 2 นาที บน Microsoft PowerPoint
เชื่อว่าหลายคนคงเจอปัญหางานด่วน สั่งเช้า นำเสนอบ่าย ทำให้ทำไม่ทัน
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงสั่งให้ Copilot ช่วยทำสไลด์ ซึ่งทำเสร็จในไม่กี่นาที
ยกตัวอย่างเช่น หากเราต้องการทำสไลด์พรีเซนต์กลยุทธ์การตลาดของสินค้า A
ก็เพียงแค่สั่ง Copilot ให้ช่วยได้ โดยกรอกข้อมูลที่ต้องการให้อยู่บนสไลด์ โทนการเล่าเรื่อง ความยาวกี่หน้า พร้อมแนบไฟล์ข้อมูลประกอบ
เพียงเท่านี้ เราก็จะได้สไลด์สำหรับพรีเซนต์ภายในไม่กี่นาที
ซึ่ง Copilot ยังมีความสามารถปรับแต่งสไลด์ให้น่าสนใจมากขึ้นได้
ด้วยการใส่แอนิเมชันเคลื่อนไหว ทั้งสไลด์ ตัวอักษร หรือเลือกใช้ภาพประกอบ และแบบตัวอักษรที่เหมาะสม
นอกจาก Copilot จะช่วยทำสไลด์ได้แล้ว
ยังช่วยสรุปเนื้อหาในสไลด์ ให้ออกมาเป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่ายได้อีกด้วย
ทาง Microsoft ระบุว่า ทุกวันนี้ผู้ใช้งานใช้ความสามารถของ Microsoft PowerPoint ไปไม่ถึง 10%
ซึ่ง Copilot นี้เอง ที่จะช่วยปลดล็อกความสามารถอีก 90% ที่เหลือ เพียงแค่พิมพ์คำสั่งที่ต้องการ
3. ช่วยเขียนอีเมลให้ดูชำนาญบน Outlook ไม่ต้องศึกษานานก็ทำได้
หลายคนคงเคยประสบปัญหา เช่น จะลาป่วย ต้องเขียนอีเมลอย่างไร ถึงจะถูกต้องหรือเหมาะสม
ซึ่งเราสามารถสั่งให้ Copilot ช่วย ด้วยการพิมพ์ @Copilot
หลังจากนั้นก็ใส่อาการป่วย ใส่ไฟล์รูปใบรับรองแพทย์ กำหนดโทนการเขียนเป็นทางการ และเลือกความยาวของจดหมาย
จดหมายลาป่วยฉบับสมบูรณ์ ก็พร้อมส่งตรงไปถึงหัวหน้าทันที..
นอกจากนี้ Copilot บน Outlook ยังช่วยสรุปเนื้อหาต่าง ๆ บนอีเมล ให้ออกมาเป็นเนื้อหาสั้น ๆ เข้าใจง่ายได้อีกด้วย
แต่ต้องหมายเหตุว่าตอนนี้ ฟีเชอร์นี้ยังไม่รองรับภาษาไทย แต่น่าจะทำได้ในเร็ว ๆ นี้
4. ช่วยสรุปเนื้อหาการประชุมบน Microsoft Teams
Copilot บน Microsoft Teams จะช่วยสรุปการประชุมออกมาเป็นข้อ ๆ ว่า ใครพูดอะไรบ้าง และมีความเห็นต่อเรื่องที่ประชุมอย่างไร
ทำให้เราเข้าใจเนื้อหาการประชุมทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ Copilot ยังสามารถสรุปปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ประชุม
ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในที่ประชุมได้อย่างตรงจุดอีกด้วย
5. ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลใน Microsoft Excel
เชื่อว่าหลายคนคงเคยต้องการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่บน Microsoft Excel
แต่หลายครั้งกลับไม่รู้ว่า ข้อมูลที่มีสามารถวิเคราะห์อะไรได้บ้าง หรือไม่รู้ว่า ข้อมูลที่มีนั้นเพียงพอหรือยัง
ซึ่ง Copilot บน Microsoft Excel จะเข้ามาแก้ปัญหาตรงจุดนี้
โดยมีความสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ แล้วสรุปออกมาให้เป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่าย
ยกตัวอย่างเช่น
สรุปรายได้ และยอดขาย จากที่เป็นตัวเลข ออกมาเป็นข้อความว่า แต่ละปีมีรายได้เท่าไร และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่เท่าไร
- สร้างกราฟประกอบข้อมูลที่มีอยู่บน Excel เพื่อให้เห็นภาพและเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงตัวอย่างฟีเชอร์เด็ด ๆ ของ Copilot บน Microsoft
ซึ่งต้องบอกว่า ฟีเชอร์เด็ด ๆ ของ Copilot เหล่านี้ ก็คล้าย ๆ กับฟีเชอร์ AI บน Google Workspace
ที่มีทั้งโปรแกรม Google Docs, Google Sheets, Google Slides และ Gmail
ขอบคุณข้อมูล:https://www.marketthink.co/50715
By:Bank