5 เทคนิคพิชิตใจลูกค้าในธุรกิจโลจิสติกส์
5 เทคนิคพิชิตใจลูกค้าในธุรกิจโลจิสติกส์
ผู้เชี่ยวชาญด้าน E-Commerce ต่างก็รู้กันดีว่าความยั่งยืนในธุรกิจนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการหาลูกค้าใหม่ๆเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งอย่างคือ การสร้างความจงรักภักดีของลูกค้า ผ่านการสร้างความพึงพอใจ จนเกิดเป็นการซื้อสินค้า หรือใช้บริการของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง หรือที่เรารู้จักกันว่า Brand Loyalty ซึ่งผลมาจากการศึกษาหลาย ๆ แห่งก็พูดไปในทางเดียวกันว่า การที่จะหาลูกค้าใหม่ ๆ นั้น มักจะมีต้นทุนมากกว่าการรักษาลูกค้าเดิมถึง 5 เท่า ในยุคที่การแข่งขันสูงอย่างทุกวันนี้ การสร้างความแตกต่างและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจโลจิสติกส์ มาดู 5 เทคนิคที่จะช่วยให้คุณพิชิตใจลูกค้าและสร้างความเติบโตให้กับธุรกิจของคุณกันเลยครับ
1.การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญ
การบริหารคลังสินค้าอย่างถูกต้อง และการเลือกซัพพรายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือนั้น คือก้าวแรกที่สำคัญด้านโลจิสติกส์ เพราะถ้าหากเราไม่มีสินค้าที่ต้องการขายอยู่ในคลังสินค้าแล้ว สิ่งที่จะตามมาคือความไม่พอใจของลูกค้า แน่นอนละเราควรจะต้องเลือกบริหารคลังสินค้าเอง หรือใช้ outsource ในการบริหารคลังสินค้าแทน ถือว่าเป็นเรื่องที่เราควรที่จะให้ความสำคัญ และตัดสินใจเป็นอันดับแรก ๆ
2.มีความโปร่งใสในเรื่องของราคาและเงื่อนไขการขนส่ง
การที่จะเกิดความภักดีของลูกค้าที่มีต่อเรานั้น เริ่มต้นจากความเชื่อใจที่ลูกค้ามีให้กับธุรกิจ และสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจนั้น คือความไม่รู้ เพราะเมื่อไม่รู้นั้นก็ไม่มั่นใจ และความไม่มั่นใจนำไปสู่ความไม่พอใจ และไม่ซื้อซ้ำในที่สุด สิ่งสำคัญคือ ความโปร่งใสด้านราคาและเงื่อนไขการขนส่ง ที่จะสามารถก่อให้เกิดความภักดีของลูกค้าได้ ซึ่งการที่จะทำแบบนี้ได้นั้น เราต้องระบุความแตกต่างของบริการขนส่งในแต่ละรูปแบบให้ชัดเจนที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลา ราคา เงื่อนไขต่าง ๆ หรือจะสรุปง่าย ๆ ก็คือเราต้องให้ข้อมูลทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ เพื่อช่วยในการตัดสินใจของลูกค้า
3.นำเสนอตัวเลือกแก่ลูกค้าให้มากเท่าที่ลูกค้าจะต้องการ
จากข้างต้นนั้น ความโปร่งใสถือเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก ลูกค้าทั้งหลายคนเปลี่ยนจากการเดินเลือกซื้อสินค้าเอง เปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งแทน และธุรกิจต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับ ทางเลือกการขนส่งหรือการรับสินค้า และความเร็วในการขนส่งให้แก่ลูกค้า ซึ่งเรานั้นสามารถเสนอบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริการขนส่งให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นแบบ Standard แบบ express หรือ แบบ Next day delivery ที่สามารถเสนอราคาที่แตกต่างกันได้
4.การเลือกบริษัทขนส่งที่ดีที่สุด
เพราะสิ่งที่ลูกค้าสนใจนั้น จะเป็นเพียงประสบการณ์ในการซื้อสินค้านั้น ซึ่งหมายความว่าบริษัทขนส่งที่ใช้จะส่งผลกระทบต่อแบรนด์ได้โดยตรง หากการขนส่งมีปัญหาในเรื่องล่าช้า สินค้าเสียหาย หรือจะเป็นการฝากสินค้าไว้กับคนอื่นนั้น ลูกค้าที่ซื้อสินค้าเราไปก็จะได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี และจะเกิดผลเสียกับแบรนด์โดยตรง และประสบการณ์ที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียว สามารถทำลายประสบการณ์ดีดี ที่เราเคยทำเอาไว้ทั้งหมด
5.คำนึงถึงนโยบายการคืนสินค้าของบริษัท
เมื่อลูกค้าของเราได้รับสินค้าแล้ว เกิดความไม่พึงพอใจ และต้องการคืนสินค้ากลับไป เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อใจของผู้บริโภค โดยเฉพาะที่ลูกค้าคืนสินค้าไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทนั้นไม่ต้องการเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แต่เมื่อหากได้เกิดขึ้นมาแล้วบริษัทนั้นจึงต้องบริหารจัดการให้เหมาะสม ซึ่งถ้าหากเรานั้น มีนโยบายคืนสินคาแต่ต้องมีเงื่อนไขต่าง ๆ มีความชัดเจน มีกระบวนการที่เรียบง่าย มีความยืดหยุ่น และสะดวก ก็จะส่งผลให้แก่ลูกค้ามีคามพอใจตั้งแต่ใช้บริการในครั้งแรก
BY: theeratepplaieii
ที่มา: at-once.info