วิธีการจัดส่ง "ยานพาหนะ" ระหว่างประเทศ
อัพเดทล่าสุด: 27 ก.ย. 2024
139 ผู้เข้าชม
Roll On, Roll Off (RORO)
Roll On, Roll Off (RORO) คือการขนส่งด้วยเรือที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการล้อขนส่งสินค้า เช่น รถยนต์ , รถบรรทุก , รถบรรทุกกึ่งรถพ่วง , รถโดยสาร , รถพ่วงและรถทางรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกที่สุดสำหรับการจัดส่ง ยานพาหนะ ไปยังต่างประเทศ โดยยานพาหนะของคุณจะถูกขับขึ้นไปบนเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นลานจอดขนาดใหญ่ จากนั้นยานพาหนะจะถูกล็อคด้วยสายรัด Composite Strap ที่มีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงสูง ช่วยให้ยานพาหนะไม่เคลื่อนที่ ไม่ควรทิ้งสิ่งของไว้ในยานพาหนะด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย หรือหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมศุลกากรและการตรวจสอบเพิ่มเติมในประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ยานพาหนะของคุณควรต้องอยู่ในสภาพดีและเข้ารับบริการอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหากยานพาหนะของคุณไม่สามารถใช้งานได้
ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งรถยนต์
การขนส่งยานพาหนะด้วยตู้คอนเทนเนอร์เป็นวิธีการได้รับความนิยมมากที่สุดในการขนส่งรถยนต์ไปต่างประเทศ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมวิธีการจัดส่งยานพาหนะไปต่างประเทศมักจะอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แม้จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าวิธีการจัดส่งแบบ Roll On, Roll Off (RORO) แต่ให้ความปลอดภัยที่มากกว่า เพราะยานพาหนะของคุณจะได้รับการปกป้องแบบ 100% ภายในตู้คอนเทนเนอร์ตลอดการเดินทางข้ามมหาสมุทร แต่บริษัทขนส่งจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันความเสียหายอย่างรัดกุม เช่น สายรัด Composite Strap ถุงลมกันกระแทก กั้นสินค้า สำหรับตู้คอนคอนเทนเนอร์ สารดูดความชื้น เป็นต้น
ขนส่งทางอากาศ
วิธีการจัดส่งยานพาหนะทางอากาศนั้นมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ซึ่งมักจะมากกว่ามูลค่าของตัวรถเอง นี่คือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่เลือกการจัดส่งยานพาหนะทางอากาศเพราะไม่คุ้มกับค่าขนส่ง แต่ในทางกลับกันการจัดส่งยานพาหนะไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางอากาศนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีการดำเนินการขนถ่ายอย่างมีมาตรฐานและมีความรวดเร็ว สามารถไปถึงประเทศปลายทางภายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อเทียบกับการขนส่งทางเรือ หรือรถยนต์
วิธีเตรียมรถเพื่อส่งไปต่างประเทศ
BY : ICE
ที่มา : https://jmpthailand.com
Roll On, Roll Off (RORO) คือการขนส่งด้วยเรือที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินการล้อขนส่งสินค้า เช่น รถยนต์ , รถบรรทุก , รถบรรทุกกึ่งรถพ่วง , รถโดยสาร , รถพ่วงและรถทางรถไฟ ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกที่สุดสำหรับการจัดส่ง ยานพาหนะ ไปยังต่างประเทศ โดยยานพาหนะของคุณจะถูกขับขึ้นไปบนเรือบรรทุกสินค้าที่เป็นลานจอดขนาดใหญ่ จากนั้นยานพาหนะจะถูกล็อคด้วยสายรัด Composite Strap ที่มีความแข็งแรงทนต่อแรงดึงสูง ช่วยให้ยานพาหนะไม่เคลื่อนที่ ไม่ควรทิ้งสิ่งของไว้ในยานพาหนะด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย หรือหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียมศุลกากรและการตรวจสอบเพิ่มเติมในประเทศต่าง ๆ นอกจากนี้ยานพาหนะของคุณควรต้องอยู่ในสภาพดีและเข้ารับบริการอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มเติมหากยานพาหนะของคุณไม่สามารถใช้งานได้
ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งรถยนต์
การขนส่งยานพาหนะด้วยตู้คอนเทนเนอร์เป็นวิธีการได้รับความนิยมมากที่สุดในการขนส่งรถยนต์ไปต่างประเทศ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมวิธีการจัดส่งยานพาหนะไปต่างประเทศมักจะอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ แม้จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าวิธีการจัดส่งแบบ Roll On, Roll Off (RORO) แต่ให้ความปลอดภัยที่มากกว่า เพราะยานพาหนะของคุณจะได้รับการปกป้องแบบ 100% ภายในตู้คอนเทนเนอร์ตลอดการเดินทางข้ามมหาสมุทร แต่บริษัทขนส่งจะต้องมีอุปกรณ์ป้องกันความเสียหายอย่างรัดกุม เช่น สายรัด Composite Strap ถุงลมกันกระแทก กั้นสินค้า สำหรับตู้คอนคอนเทนเนอร์ สารดูดความชื้น เป็นต้น
ขนส่งทางอากาศ
วิธีการจัดส่งยานพาหนะทางอากาศนั้นมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ซึ่งมักจะมากกว่ามูลค่าของตัวรถเอง นี่คือเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักจะไม่เลือกการจัดส่งยานพาหนะทางอากาศเพราะไม่คุ้มกับค่าขนส่ง แต่ในทางกลับกันการจัดส่งยานพาหนะไปต่างประเทศโดยการขนส่งทางอากาศนั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีการดำเนินการขนถ่ายอย่างมีมาตรฐานและมีความรวดเร็ว สามารถไปถึงประเทศปลายทางภายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อเทียบกับการขนส่งทางเรือ หรือรถยนต์
วิธีเตรียมรถเพื่อส่งไปต่างประเทศ
- ขั้นตอนที่ 1 นำยานพาหนะของคุณเข้ารับการตรวจสภาพและเข้ารับบริการที่อู่ซ่อมที่ได้รับการรับรองและมีมาตรฐานสูง เพื่อให้แน่ใจว่ายานพาหนะจะอยู่ในสภาพทางเทคนิคที่ดีในระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ
- ขั้นตอนที่ 2 นำของใช้ส่วนตัวทั้งหมดออกจากยานพาหนะ แต่สามารถทิ้งเบาะนั่งสำหรับเด็กหรืออุปกรณ์มาตรฐานของรถไว้ได้ อย่างเช่น ยางอะไหล่ ชุดฉุกเฉิน เครื่องมือช่าง แม่แรง ฯลฯ โดยต้องไม่ถอดป้ายทะเบียนออก
- ขั้นตอนที่ 3 ทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในยานพาหนะ
- ขั้นตอนที่ 4 ถอดอุปกรณ์ตกแต่งภายนอกยานพาหนะที่สามารถถอดออกได้ เช่น เสาอากาศ สปอยเลอร์ หลังคา ฯลฯ
- ขั้นตอนที่ 5 ตรวจสอบภายนอกยานพาหนะและถ่ายภาพสภาพของยานพาหนะเก็บไว้ เผื่อในกรณีที่มีร่องรอยความเสียหายใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการขนส่ง และอย่าลืมถ่ายภาพระยะใกล้ของความเสียหายที่มีอยู่แล้ว เช่น รอยขีดข่วน สีแตก รอยบุบ ฯลฯ
- ขั้นตอนที่ 6 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ยานพาหนะของคุณอยู่ในสภาพดี ไม่เสื่อม
- ขั้นตอนที่ 7 ตรวจสอบลมยางของยานพาหนะ
- ขั้นตอนที่ 8 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบรกฉุกเฉินทำงานได้ปกติ
- ขั้นตอนที่ 9 น้ำมันเชื้อเพลิงไม่ควรเกิน 1/4 ของถัง
- ขั้นตอนที่ 10 ปิดการใช้งานหรือถอดระบบเตือนภัยของยานพาหนะหากเป็นไปได้
- ขั้นตอนที่ 11 เตรียมกุญแจรถสำรองไว้ 1 ชุด
BY : ICE
ที่มา : https://jmpthailand.com
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในปัจจุบัน ซัพพลายเชนไม่ได้เป็นเพียงการจัดการการผลิตและการขนส่งเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจยุคดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เช่น IoT, AI, และ Big Data ได้เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความโปร่งใสในซัพพลายเชน
21 ธ.ค. 2024
ซัพพลายเชนคืออะไร? ซัพพลายเชน (Supply Chain) หรือห่วงโซ่อุปทาน คือกระบวนการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการผลิตและส่งมอบสินค้าและบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคสุดท้าย ซัพพลายเชนครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบ การผลิต การจัดเก็บ การขนส่ง จนถึงการส่งมอบสินค้าให้ถึงมือผู้บริโภค
21 ธ.ค. 2024
ในยุคสมัยที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดทรัพยากรธรรมชาติ การจัดการโลจิสติกส์อย่างยั่งยืนหรือ Green Logistics กลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน
20 ธ.ค. 2024