RPA (Robotic Process Automation)
Robotic Process Automation (RPA) คือเทคโนโลยีที่ใช้ซอฟต์แวร์หรือ "หุ่นยนต์" เพื่อทำงานที่มีลักษณะซ้ำซากและเป็นระบบอัตโนมัติ โดยมักใช้ในการทำงานที่ต้องมีการป้อนข้อมูล การจัดการข้อมูล หรือการทำธุรกรรมต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
คุณสมบัติหลักของ Robotic Process Automation (RPA)
1.อัตโนมัติ : ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำงานซ้ำซาก เช่น การคัดลอกและวางข้อมูลจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง
2.ไม่ต้องเขียนโค้ด : ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรม เนื่องจากมีเครื่องมือที่ใช้การลากและวาง (drag-and-drop) เพื่อสร้างโปรเซส
3.การทำงานร่วมกัน : RPA สามารถทำงานร่วมกับระบบและแอปพลิเคชันที่มีอยู่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงระบบเดิม
4.ลดข้อผิดพลาด : ช่วยลดความผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้การทำงานมีความแม่นยำมากขึ้น
ประโยชน์ของ Robotic Process Automation (RPA)
- เพิ่มประสิทธิภาพ : ช่วยให้พนักงานมีเวลามากขึ้นในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
- ประหยัดค่าใช้จ่าย : ลดความต้องการในการจ้างงานสำหรับงานที่สามารถทำอัตโนมัติ
- ปรับปรุงคุณภาพ : ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานด้วยมือ
ตัวอย่างการใช้งาน
- การจัดการข้อมูลในระบบ ERP- การประมวลผลใบแจ้งหนี้
- การจัดการบริการลูกค้า โดยการตอบกลับอีเมลหรือแชทอัตโนมัติ
ข้อดีของ Robotic Process Automation (RPA)
1.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
- RPA สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีการหยุดพัก ทำให้สามารถเพิ่มผลิตภาพได้อย่างมาก
2.ลดข้อผิดพลาด
- เนื่องจากหุ่นยนต์ทำงานตามโปรแกรมที่กำหนด ข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือจะลดลง
3.ประหยัดค่าใช้จ่าย
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างงานสำหรับงานที่มีลักษณะซ้ำซาก ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในองค์กรได้
4.ปรับปรุงการบริการลูกค้า
- สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น เช่น การตอบอีเมลหรือแชทอัตโนมัติ
5.ไม่ต้องเปลี่ยนระบบเดิม
- RPA สามารถทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่ได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน
ข้อเสียของ Robotic Process Automation (RPA)
1.ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น
- การลงทุนในระบบ RPA อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูงสำหรับการจัดซื้อซอฟต์แวร์และการฝึกอบรมพนักงาน
2.ข้อจำกัดในการประมวลผลข้อมูล
- RPA เหมาะสำหรับงานที่มีโครงสร้างชัดเจน แต่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรือการตัดสินใจที่ซับซ้อน
3.ความเสี่ยงทางเทคโนโลยี
- หากระบบ RPA ไม่ได้รับการตั้งค่าอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการทำงานหรือข้อมูลสูญหาย
4.ความกลัวการเปลี่ยนแปลง
- พนักงานอาจมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียงานจากการที่ RPA แทนที่พวกเขา
5.ต้องการการบำรุงรักษา
- ต้องมีการดูแลรักษาและอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BY: Patch
ที่มา: CHAT GPT