ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Dream Machine แบ่งออกเป็น 4 ข้อหลัก ๆ ได้แก่
หากเราลองใช้ Dream Machine จะพบว่า หลังจากการป้อนคำสั่งแล้ว Dream Machine จะสามารถสร้างคลิปวิดีโอความยาว 5 วินาที โดยใช้เวลาในการประมวลผลเพียง 2 นาทีเท่านั้น (ไม่รวมระยะเวลารอคิว ซึ่งอาจนานกว่านั้น หากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก)
โดยที่เว็บไซต์ของ Luma Labs ระบุว่า คลิปวิดีโอความยาว 5 วินาที ถูกสร้างขึ้นจากภาพนิ่ง 120 รูปภาพ
เมื่อหารออกมาแล้ว ก็แปลว่า คลิปวิดีโอนี้ จะมี 24 เฟรม/วินาที นั่นเอง
ซึ่งถือว่าเป็นคลิปวิดีโอที่ลื่นไหลไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะในปัจจุบัน iPhone ที่เราใช้กันอยู่ ก็สามารถถ่ายคลิปวิดีโอ ได้ที่ 24 เฟรม/วินาที เช่นเดียวกัน ในโหมด Cinematic
เช่น มุมมองระยะใกล้ ระยะไกล หรือมุมมองการซูมใบหน้า ที่อยู่ในคลิปวิดีโอ
นอกจากนี้ เรายังสามารถป้อนคำสั่ง ที่ระบุได้ด้วยว่าต้องการ โทน ของคลิปวิดีโอในรูปแบบใด เช่น ภาพยนตร์ ดราม่า หรือมีชีวิตชีวา
อธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็คือ Dream Machine มีการประมวลผลของ AI ที่สามารถเข้าใจลักษณะ ของสิ่งมีชีวิต และธรรมชาติ ได้ดี
เช่น ใบหน้าของคนที่กำลังยิ้ม จะต้องมีลักษณะอย่างไร
หรือเวลาที่มีวัตถุตกลงไปในน้ำ ลักษณะของน้ำจะต้องมีการกระจายตัวอย่างไร
อธิบายให้เห็นภาพ ก็เหมือนเวลาที่เราถ่ายคลิปวิดีโอภายในห้อง หรือสถานที่ต่าง ๆ เมื่อเราถือกล้องเดินเข้าไปใกล้ ๆ เราก็จะเห็นวัตถุภายในห้องได้ชัดเจนขึ้น ตามระยะของภาพที่เปลี่ยนไป
เช่นเดียวกันกับ คลิปวิดีโอที่สร้างขึ้นด้วย Dream Machine ที่จะมีการเคลื่อนไหวที่สมจริง มีระยะของวัตถุที่เปลี่ยนไป สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของมุมกล้อง
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือฟีเชอร์โดยรวมที่ Dream Machine สามารถทำได้ หากเข้าไปลองเล่นดู ก็จะพบว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือการสร้างคลิปวิดีโอด้วย AI ที่เจ๋งไม่น้อยเลย
แต่ในตอนนี้ Dream Machine ยังคงมีข้อจำกัดอยู่หลายข้อด้วยกัน ได้แก่
1. วัตถุอาจมีลักษณะไม่เหมือนเดิม เมื่อมุมกล้องเปลี่ยนไป
เช่น คลิปวิดีโอที่มีการเคลื่อนที่ของมุมกล้องรอบ ๆ รถยนต์ ทุกครั้งที่มุมกล้องเปลี่ยนไป รถยนต์จะมีลักษณะไม่เหมือนเดิม ซึ่งทำให้เราไม่สามารถนำคลิปวิดีโอนี้ ไปใช้งานจริงได้ขอบคุณข้อมูล:https://www.marketthink.co/53600
By:Bank