แชร์

สรุป 15 คำศัพท์ ตัวชี้วัดการตลาด Influencer Marketing ที่ครีเอเตอร์ ต้องรู้

อัพเดทล่าสุด: 11 พ.ย. 2024
38 ผู้เข้าชม
สรุป 15 คำศัพท์ ตัวชี้วัดการตลาด Influencer Marketing ที่ครีเอเตอร์ ต้องรู้

Influencer Marketing คือ 

การตลาดโดยใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาช่วยในการโฆษณา ช่วยรีวิวสินค้า ช่วยแนะนำบริการ ให้กับสินค้าและบริการ ให้กับแบรนด์ โดยกลุ่ม Influencers ส่วนใหญ่จะใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook,IG,Youtube,Tiktok เป็นช่องทางให้การโฆษณา,รีวิวสินค้า ,รีวิวบริการ ของแบรนด์

สรุป 15 คำศัพท์ ตัวชี้วัดการตลาด Influencer Marketing ที่ครีเอเตอร์ ต้องรู้

ขั้นที่ 1 Top of Funnel คือ ตัวชี้วัดที่เน้นการสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness)
1. Impression & Reach
Impression คือ จำนวนครั้งที่โพสต์ถูกแสดง (นับการมองเห็นซ้ำ)
Reach คือ จำนวนคนที่เห็นโฆษณา (ไม่นับซ้ำบัญชีเดิม)

2. Cost Per Mile (CPM)
คือ ต้นทุนต่อการแสดงโฆษณา 1,000 ครั้ง มีสูตรการคำนวณคือ
CPM = (ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา / Impression) x 1,000
ตัวอย่างการคำนวณ เช่น เรามีงบโฆษณา 10,000 บาท สร้างการแสดงผลโฆษณาได้ 100,000 ครั้ง จะได้
CPM = (10,000 / 100,000) x 1,000 = 100
ซึ่งความหมายก็คือ แบรนด์มีต้นทุน 100 บาท ต่อการแสดงผลโฆษณาทั้งหมด 1,000 ครั้ง

3. Earned Media Value (EMV)
คือ มูลค่าที่เกิดขึ้นจากสื่ออื่นที่พูดถึงแบรนด์ของเรา โดยเราไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งมักเกิดจากการพูดกันแบบปากต่อปาก การรีวิว หรือการพูดถึงจากสื่ออื่น ๆ
โดยสูตรการคำนวณคือ EMV = จำนวนการแสดงผลทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้น x CPM
ซึ่ง Cost Per Mile (CPM) ที่ใช้ในการคำนวณ จะเป็นการประมาณเบื้องต้น ตามค่าเฉลี่ยของมูลค่าสื่อในแต่ละแพลตฟอร์ม
อย่างไรก็ตาม การวัดผลด้วย EMV ก็มีข้อจำกัดคือ เก็บข้อมูลให้ครบถ้วนได้ลำบาก จึงวัดผลจริงได้ยาก

4. Follower Growth
ยอดการเติบโตของผู้ติดตาม เป็นตัวชี้วัดสำคัญของแบรนด์ว่า หลังจากทำ Influencer Marketing แล้ว
มีคนสนใจในคอนเทนต์และสินค้าของเราเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนทำแคมเปญ
ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ คือคนที่มีโอกาสจะกลายเป็นลูกค้าในภายหลังได้
โดยส่วนใหญ่แล้ว Follower Growth จะคำนวณเป็นจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นแบบตรง ๆ เปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลาที่กำหนดเลยก็ได้
หรือจะคำนวณจำนวนผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นได้จากสูตร Follower Growth Rate
Follower Growth Rate = [(จำนวนผู้ติดตามหลังการทำแคมเปญ - จำนวนผู้ติดตามก่อนการทำแคมเปญ) / จำนวนผู้ติดตามก่อนการทำแคมเปญ] x 100
ตัวอย่างการคำนวณ ก่อนทำแคมเปญ Influencer Marketing บัญชี Instagram ของแบรนด์มีผู้ติดตาม 100,000 คน แต่หลังจากทำแคมเปญไปแล้วมีผู้ติดตามเพิ่มเป็น 145,000 คน
Follower Growth Rate เท่ากับ [(145,000 - 100,000) / 100,000] x 100 = 45%
ซึ่งความหมายก็คือ แบรนด์มีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนการทำแคมเปญ

5. Total Number of Influencer Followers
จำนวนผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์ แสดงถึงขนาดและศักยภาพของการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ของอินฟลูเอนเซอร์ที่แบรนด์ร่วมงานด้วย ยิ่งมีผู้ติดตามมาก ก็ยิ่งสามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ได้มากขึ้น

ขั้นที่ 2 Middle of Funnel คือ ตัวชี้วัดที่เน้นการสร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ (Engagement)
6. Engagement
คือ ยอดการมีส่วนร่วมของผู้ชมคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นการกด Like, Comment, Share และการกด Save
ยิ่งอินฟลูเอนเซอร์มียอดเอนเกจเมนต์สูง แสดงว่าผู้ติดตามมีส่วนร่วมกับครีเอเตอร์หรือแบรนด์สูงตามไปด้วย

7. Brand Mentions
คือ การกล่าวถึงแบรนด์จากผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องหมาย # (Hashtag),
การใช้เครื่องหมาย @ (Mention) หรือการพูดถึงแบรนด์ผ่านการโพสต์ หรือคอมเมนต์ในคอนเทนต์ต่าง ๆ
ซึ่งข้อมูลจากคอมเมนต์เป็นข้อมูลอินไซต์ที่มีคุณค่ามาก เพราะเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ ไม่ใช่ข้อมูลเชิงปริมาณ ที่เราต้องนำไปวิเคราะห์ต่ออีกทอดหนึ่งก่อน แต่สามารถนำไปใช้พัฒนาปรับปรุงแบรนด์ของเราได้ทันที
โดยการรวบรวมการพูดถึงแบรนด์บนสื่อออนไลน์ก็สามารถทำได้ด้วยเครื่องมือ Social Listening Tools และ Brand Monitoring Tools

8. Click-Through Rate (CTR) - Web Traffic
คือ ตัวเลขที่บอกว่า คนที่เห็นโฆษณาหรือคอนเทนต์ มีอัตราการคลิกเข้ามาดูมากน้อยแค่ไหน
มีสูตรคำนวณคือ CTR = (จำนวนครั้งที่คลิก / Impression) x 100
ตัวอย่างการคำนวณ เช่น โฆษณาของเราแสดงผลบนหน้าเซิร์ช Google 1,000 ครั้ง มีคนกดเข้าไปในผลการค้นหานั้น 40 ครั้ง
แสดงว่า CTR เท่ากับ (40 / 1,000) x 100 = 4%
ซึ่งความหมายก็คือ ทุกการแสดงโฆษณาบนหน้าเซิร์ช Google 100 ครั้ง จะมีคนกดเข้ามาอ่าน 4 ครั้ง

ครั้งหน้าเราจะมีสรุป อีก 7 คำศัพท์ ที่เหลือกันนะครับ

โดย : พี่ปี (ทีม5)

ที่มา : FB MarketThink


บทความที่เกี่ยวข้อง
เทรนด์การตลาดบนโซเชียลมีเดียในปี 2025
เทรนด์การตลาดบนโซเชียลมีเดียในปี 2025 จะมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น แบรนด์ต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ
20 พ.ย. 2024
วิธีการสร้าง Netnography ไอเดียวิจัย พฤติกรรมลูกค้า บนโลกออนไลน์
วิธีการสร้าง Netnography ไอเดียวิจัย พฤติกรรมลูกค้า บนโลกออนไลน์
18 พ.ย. 2024
ไอเดียทำ Low-cost marketing การตลาดต้นทุนต่ำ
ไอเดียทำ Low-cost marketing Low-cost marketing คือการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มักเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการประหยัดงบประมาณ ต่อไปนี้คือไอเดียสำหรับทำ low-cost marketing
16 พ.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ