Customer Validation คือ อะไร?
อัพเดทล่าสุด: 16 ธ.ค. 2024
178 ผู้เข้าชม
Customer Validation หรือการประเมินลูกค้าเบื้องต้น เป็นคัดเลือกว่าคนที่ติดต่อเรามาคนไหน (Leads) มีคุณสมบัติที่จะเป็นลูกค้าของเรา หรือที่เรียกในภาษาการตลาดว่า Qualified Leads และคนไหนที่ไม่เข้าข่ายที่เป็นลูกค้าของเรา ในขั้นตอนการประเมินลูกค้าจะรวมไปถึงการจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าว่าควรจะให้ความสำคัญกับลูกค้าคนไหนก่อน (Prioritization) โดยบริษัทที่ต้องการทำให้เป็นระบบอาจมีการจัดทำกระบวนการประเมินลูกค้า (Customer Validation Process) หรือถ้าอยากทำแบบง่ายๆ ก็สามารถเตรียมชุดคำถามที่ใช้สอบถามผู้ที่ติดต่อสอบถามเข้ามา (Questions) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นเรื่องสำคัญมากในการทำธุรกิจ รวมถึงการทำธุรกิจออนไลน์ด้วย
ทำไมเราต้องทำการประเมินลูกค้า?
ข้อดีของการประเมินลูกค้า คือ เพื่อประหยัดเวลาไม่ให้สูญเสียเวลาทั้งหมดไปกับลูกค้าที่ไม่ได้ต้องการซื้อสินค้าเราจริงๆ หรือลูกค้าที่มาเพื่อสอบถามข้อมูลเล่นๆและไม่ได้สนใจสินค้าของเราจริงๆ โดยเราจะทำการคัดเลือกลูกค้าที่มีศักยภาพ (Potential Customers) และจัดสรรเวลาสำหรับลูกค้าที่ต้องการจะซื้อสินค้าหรือบริการของเรา ซึ่งการประหยัดเวลาจะสามารถทำให้เรามีเวลาเหลือในการไปพัฒนาด้านอื่นๆต่อไปได้ เช่น นำเวลาไปพัฒนาสินค้า/บริการ ทำการตลาดเพิ่มเติม การพัฒนาตัวเอง หรือเพิ่มยอดขายกับลูกค้าที่สนใจ (Upsell or Cross Sell)
หัวข้อเรื่องที่จะใช้ในการประเมินลูกค้ามีได้หลากหลายเรื่อง ซึ่งจะแตกต่างกันบ้างในแต่และสินค้าและบริการ
1.งบประมาณ ลูกค้าต้องมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา ถึงแม้ว่าลูกค้าจะอยากได้สินค้าหรือบริการของเราเพียงใดก็ตาม แต่ถ้าลูกค้าไม่มีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อ ก็ไม่สามารถที่จะซื้อได้
2.ระยะเวลาในการรอ ลูกค้าสามารถยอมรับระยะเวลาในการรอรับสินค้าได้
3.พื้นที่ให้บริการ ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ที่เราสามารถให้บริการได้ทั่วถึง
4.อำนาจในการตัดสินใจ ลูกค้าเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ หรือเป็นคนที่มีอิธิพลสูงในการโน้มน้าวคนที่มีอำนาจสั่งซื้อหรือจ่ายเงิน
5.การยอมรับในมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ลูกค้าต้องสามารถยอมรับข้อจำกัดของสินค้า/บริการ และทำตามกระบวนการสั่งซื้อของบริษัท
6.ความรู้ในผลิตภัณฑ์ ลูกค้าที่ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์มาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะถ้าได้เห็นหรือทดลองผลิตภัณฑ์ของเราแล้ว และยังสนใจในผลิตภัณฑ์ของเรา มีแนวโน้มสูงที่ลูกค้าจะซื้อสินค้า/บริการ
2.ระยะเวลาในการรอ ลูกค้าสามารถยอมรับระยะเวลาในการรอรับสินค้าได้
3.พื้นที่ให้บริการ ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ที่เราสามารถให้บริการได้ทั่วถึง
4.อำนาจในการตัดสินใจ ลูกค้าเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ หรือเป็นคนที่มีอิธิพลสูงในการโน้มน้าวคนที่มีอำนาจสั่งซื้อหรือจ่ายเงิน
5.การยอมรับในมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ลูกค้าต้องสามารถยอมรับข้อจำกัดของสินค้า/บริการ และทำตามกระบวนการสั่งซื้อของบริษัท
6.ความรู้ในผลิตภัณฑ์ ลูกค้าที่ได้ศึกษาผลิตภัณฑ์มาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะถ้าได้เห็นหรือทดลองผลิตภัณฑ์ของเราแล้ว และยังสนใจในผลิตภัณฑ์ของเรา มีแนวโน้มสูงที่ลูกค้าจะซื้อสินค้า/บริการ
ตัวอย่างการสอบถามลูกค้า
-สอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า ว่ามาจากปริษัทไหน มีตำแหน่งอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีงบเพียงพอต่อการซื้อสินค้าของเรา
-เสนอราคาเพื่อดูปฏิกิริยาของลูกค้าที่มีต่อราคาสินค้าของเรา
-ติดตามลูกค้า และดูว่าลูกค้าปฏิกิริยาในการตอบกลับมาหาเราอย่างไร หรือมีการ Feedback มาบ้างรึเปล่า (ถ้าเราพยายามติดต่อแล้ว ลูกค้าไม่มีการตอบกลับ อาจประเมินได้ว่าลูกค้าคนนี้ไม่ใช่ลูกค้าของเรา)
-สอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับลูกค้า ว่ามาจากปริษัทไหน มีตำแหน่งอะไร เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้ามีงบเพียงพอต่อการซื้อสินค้าของเรา
-เสนอราคาเพื่อดูปฏิกิริยาของลูกค้าที่มีต่อราคาสินค้าของเรา
-ติดตามลูกค้า และดูว่าลูกค้าปฏิกิริยาในการตอบกลับมาหาเราอย่างไร หรือมีการ Feedback มาบ้างรึเปล่า (ถ้าเราพยายามติดต่อแล้ว ลูกค้าไม่มีการตอบกลับ อาจประเมินได้ว่าลูกค้าคนนี้ไม่ใช่ลูกค้าของเรา)
ผลลัพท์ที่ได้
ถ้าบริษัทหรือธุรกิจของเราทำการประเมินลูกค้าได้ดี เราจะสามารถให้บริการลูกค้าจริงๆของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายหรือผลกำไรของธุรกิจได้ อีกทั้งยังมีเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจด้วย ซึ่งดีกว่าการที่เราต้องใช้เวลาเยอะในการให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่ได้สนใจจะซื้อสินค้าหรือบริการของเราเลย แต่ติดต่อมาเพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งทำให้เราต้องเสียเวลาเยอะมากจนไม่สามารถรักษามาตรฐานการบริการให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจริงๆ และในบางกรณีลูกค้าที่ไม่ใช่ลูกค้าเหล่านั้นอาจทำให้เราต้องปวดหัวอีกด้วย
ถ้าบริษัทหรือธุรกิจของเราทำการประเมินลูกค้าได้ดี เราจะสามารถให้บริการลูกค้าจริงๆของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเพิ่มยอดขายหรือผลกำไรของธุรกิจได้ อีกทั้งยังมีเวลาเพิ่มขึ้นสำหรับการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจด้วย ซึ่งดีกว่าการที่เราต้องใช้เวลาเยอะในการให้บริการแก่ลูกค้าที่ไม่ได้สนใจจะซื้อสินค้าหรือบริการของเราเลย แต่ติดต่อมาเพียงเพราะความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งทำให้เราต้องเสียเวลาเยอะมากจนไม่สามารถรักษามาตรฐานการบริการให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ของเราจริงๆ และในบางกรณีลูกค้าที่ไม่ใช่ลูกค้าเหล่านั้นอาจทำให้เราต้องปวดหัวอีกด้วย
BY : Jim
ที่มา : https://www.2bearsmarketing.com/customer-validation-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD/
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ประเด็นเรื่อง "เงินเฟ้อ" ยังคงเป็นหัวข้อสำคัญในวงการเศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อไม่เพียงแต่ส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นโยบายการเงิน รวมถึงทิศทางการลงทุนในอนาคต
29 เม.ย. 2025
ในปี 2568 (ค.ศ. 2025) อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าหลายประเทศจะพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อผ่านนโยบายการเงินที่เข้มงวดตั้งแต่ช่วงปี 2566–2567 แต่ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการยังคงกดดันราคาในหลายภาคส่วน
29 เม.ย. 2025
ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ความฝันในการเป็นเจ้าของกิจการดูเหมือนจะใกล้มือกว่าเดิม แต่สำหรับหลายคน ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ "ไม่มีประสบการณ์" จะเริ่มต้นยังไงดี? จะบริหารยังไงให้ไม่เจ๊งตั้งแต่ปีแรก? คำตอบที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ก็คือ — "แฟรนไชส์ขนส่ง"
29 เม.ย. 2025