ประเภทของรถบรรทุกขนส่งสินค้า
ในปัจจุบันมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้บริการ เพื่อตอบสนองต่อธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มริเริ่มและใช้แรงงานไม่กี่คน ไปจนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการส่งออกหรือส่งสินค้าทั่วประเทศ ซึ่งธุรกิจนั้นๆก็มีความแตกต่างกันในเรื่อง การผลิตสินค้าหรือการให้บริการ รวมไปถึงขนาดของสินค้าที่แตกต่างกันอีกด้วย ซึ่งสินค้าแต่ละอย่างนั้น ต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้สินค้าไปถึงผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัยแล้ว รถขนส่งสินค้าที่ให้บริการในปัจจุบันมีหลากหลาย จึงควรที่จะเลือก ประเภทรถบรรทุกขนส่งสินค้า ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
ลงทะเบียนบัญชีธุรกิจ
การแบ่งประเภทของรถบรรทุก
สามารถแบ่งได้หลากหลาย แต่เป็นที่นิยมและสากลที่สุดคือการ แบ่งรถตามขนาด เพราะเราจะสามารถคำนวณปริมาณที่จะ ขนส่งสินค้า และพื้นที่ที่จะไปส่งสินค้าได้ การที่ต้องมีรถบรรทุกที่หลากหลายประเภท หลากหลายขนาดนั้น เป็นเพราะจำนวนของออเดอร์ของธุรกิจนั้นๆที่ในแต่ละวันมีไม่เท่ากัน รวมถึงบางพื้นที่ที่ต้องขนส่งสินค้ารถขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้ การใช้รถเล็กจึงตอบโจทย์สำหรับธุรกิจบางธุรกิจที่มีพื้นที่จำกัด
รถที่ใช้ในการขนส่งสินค้าที่เราใช้และเรียกกันแบบสากลแบ่งออกได้ดังนี้
1. รถ 4 ล้อ หรือรถกระบะ
เป็นรถที่เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าหรือธุรกิจที่มีออเดอร์ขนาดเล็ก เป็นที่นิยมในธุรกิจ SMEs รถสี่ล้อนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีความคล่องตัวสูงกว่ารถชนิดอื่นๆ เพราะสามารถเข้าในเขตเมืองหรือเขตที่มีพื้นที่จำกัดได้ สามารถบรรทุกครั้งละ 1-3 ตัน ซึ่งรถบรรทุก 4 ล้อนั้นมีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถสี่ล้อคอกคลุมผ้าใบ : ส่วนใหญ่จะนิยมใช้สำหรับการขนสินค้าประเภทพืช ผักผลไม้ และสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไป ที่ต้องการปริมาตรบรรทุกที่เยอะกว่า รถ 4 ล้อตู้
รถสี่ล้อตู้ทึบ : นิยมใช้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ ต้องการความปลอดภัย สินค้ามีโอกาสสูญหายได้ง่าย อาจต้องมีกาเปิดตู้เพื่อไปลงหลายจุด เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, สินค้าอุปโภคบริโภค, สินค้าที่ไม่ชอ[ความชื้น
2. รถ 6 ล้อ
ผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่จะเป็นผู้ผลิตสินค้า ที่มีขนาดเล็กไปขนถึงโรงงานผลิตสินค้าขนาดกลาง รวมไปถึงศูนย์กระจายสินค้า ที่นำสินค้ามาสต็อก ก่อนที่จะนำไปกระจายให้กับร้านค้าในภูมิภาคหรือพื้นที่นั้นๆ บางครั้งอาจไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าแต่เป็นบุคคลทั่วไปที่ต้องการจะขนย้ายสิ่งของ จากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ส่วนใหญ่รถหกล้อจะให้บรรทุกสินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ วัสดุต่างๆในการก่อสร้าง เนื่องจากสามารถบรรจุสินค้าในปริมาณที่มาก แต่รองรับน้ำหนักได้น้อยกว่ารถสิบล้อ ซึ่งรถบรรทุก 6 ล้อนั้น มีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถหกล้อพื้นเรียบ: นิยมใช้ขนส่งสินค้าวัสดุก่อสร้าง โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 6 ตัน
รถหกล้อคอก: ใช้ขนสินค้าเกษตร โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 8 ตัน
รถหกล้อตู้ทึบ: ขนส่งสินค้าที่ไม่สามารถเปียกน้ำได้ เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 6 ตัน
3. รถ 10 ล้อ
รถสิบล้อได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้ประกอบกิจการที่ผลิตสินค้าเกษตรเช่นการขนส่งปุ๋ย ขนส่งผลผลิต สินค้าที่ใช้ในการก่อสร้าง ขนส่งดิน ขนส่งแร่ต่างๆ รถสิบล้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ รถสิบล้อดัมพ์ ซึ่งจะสามารถยกชิ้นส่วนของตัวรถให้สินค้าที่บรรทุกมานั้นเทกองลงพื้นได้ รถสิบล้อเหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีปริมาณเยอะ และมีน้ำหนักมาก สินค้าที่มักจะเรียกใช้บริการขนส่งด้วยรถสิบล้อ เช่น วัสดุก่อสร้าง สินค้าจากโรงงาน หรืออุปกรณ์สำนักงานที่มีขนาดใหญ่ และเครื่องจักรกลต่างๆ ซึ่งรถบรรทุก 10 ล้อนั้นมีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถสิบล้อพื้นเรียบ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 15 ตัน
รถสิบล้อคอกดัมพ์/ไม่ดัมพ์ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 15 ตัน
รถสิบล้อตู้ทึบ : น้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 14.5 ตัน
4. รถพ่วง
การขนส่งสินค้าโดยใช้รถพ่วงในหารขนส่งนั้น เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ต้องการขนส่งสินค้าจำนวนมาก หรือสินค้าที่มีขนาดใหญ่ เช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องจักรขนาดใหญ่ สินค้าที่นิยมใช้รถพ่วงมากที่สุดคือสินค้าที่อยู่ในอุตสหกรรมการเกษตร เช่น น้ำตาล ยางพารา อาหารสัตว์ ซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถเทกองได้เลย ซึ่งรถรถพ่วง นั้นมีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถพ่วงพื้นเรียบ, รถพ่วงตู้, รถพ่วงคอกดัมพ์, รถพ่วงคอก โดยสามารถร้บน้ำหนักของสินค้าได้มากสุด 30 ตัน
5. รถกึ่งพ่วง หรือ Semi-Trailer
รถกึ่งรถพ่วง เรียกอีกชื่อคือ รถเทรลเลอร์ มาจากการที่รถชนิดนี้มีส่วนหัวเป็นแรงในการขับเคลื่อน และมีหางที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ รถประเภทนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นเนื่องจากรถประเภทนี้มีผ้าใบคลุม สามารถป้องกันฝนและละอองน้ำได้อย่างดี ซึ่งรถกึ่งพ่วง หรือ Semi-Trailer นั้นมีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถเทรลเลอร์พื้นเรียบ บรรทุกได้คือ 30 ตัน
รถเทรลเลอร์คอกดัมพ์ บรรทุกได้คือ 30 ตัน
6. รถลากตู้คอนเทนเนอร์
รถลากตู้คอนเทนเนอร์หรือเรียกอีกชื่อคือ รถหัวลาก ซึ่งลักษณะเป็นรถที่มีตู้อยู่ด้านหลัง จะนิยมใช้ในกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออกสินค้า จากประเทศต่างๆ ที่ใช้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ซึ่งรถประเภทนี้จะใช้นำสินค้าที่มาจากต่างประเทศไปจากท่าเรืออเพื่อส่งต่อ เนื่องจากสามารถขนย้ายสินค้าได้จำนวนมาก ซึ่งรถลากตู้คอนเทนเนอร์ นั้นมีการนำมาดัดแปลงได้ในหลายรูปแบบ ให้เหมาะกับธุรกิจ ได้แก่
รถลากตู้คอนเทนเนอร์Dry 20 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 28 ตัน
รถลากตู้คอนเทนเนอร์Dry 40 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 28.5 ตัน
รถลากตู้คอนเทนเนอร์Reefer 20 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 27.5 ตัน
รถลากตู้คอนเทนเนอร์Reefer 40 ฟุต = โดยน้ำหนักสินค้าที่สามารถบรรทุกได้คือ 29 ตัน
การเลือกใช้ บริการขนส่งสินค้า ควรเลือกรถที่มีขนาดเหมาะสมกับสินค้าในธุรกิจนั้นๆ และสามารถรับน้ำหนักของสินค้าที่เรามีได้ นอกจากจะเป็นการ ประหยัดต้นทุนของธุรกิจในด้านการขนส่งแล้ว ยังสามารถจัดส่งสินค้า ให้ไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างปลอดภัย ไม่ชำรุดเสียหาย อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางไปส่งสินค้าในบางพื้นที่อีกด้วย เนื่องจากสามารถคำนวนและบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BY : Tonkla
ที่มา : 360truck.co