แชร์

Counter-Positioning การสร้างจุดยืนที่แตกต่าง เพื่อเอาชนะคู่แข่ง

อัพเดทล่าสุด: 8 ม.ค. 2025
15 ผู้เข้าชม

Counter-Positioning การสร้างจุดยืนที่แตกต่าง เพื่อเอาชนะคู่แข่ง

 

Counter-Positioning หรือ การวางตำแหน่งตรงข้าม เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด ซึ่งแบรนด์จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน โดยเน้นย้ำคุณสมบัติหรือประโยชน์ที่คู่แข่งไม่มีหรือไม่ได้เน้นมากนัก

 

ทำไมต้อง Counter-Positioning?

  • โดดเด่นจากคู่แข่ง: ในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่ง การสร้างความแตกต่างคือกุญแจสำคัญในการดึงดูดลูกค้า
  • ตอบสนองความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง: บางครั้งผู้บริโภคกำลังมองหาสิ่งใหม่ที่แตกต่างออกไป
  • สร้างกลุ่มลูกค้าใหม่: การสร้างจุดยืนที่แตกต่างอาจดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่คู่แข่งยังเข้าถึงไม่ได้

 

ตัวอย่าง Counter-Positioning

  • สายการบิน: สายการบินบางแห่งเน้นความหรูหราและบริการที่เหนือกว่า (เช่น First Class) ในขณะที่สายการบินอื่นๆ อาจเน้นราคาประหยัดและความสะดวกสบาย 
  • รถยนต์: รถยนต์บางรุ่นเน้นสมรรถนะและความเร็ว ในขณะที่บางรุ่นเน้นความปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน 
  • เครื่องดื่ม: เครื่องดื่มบางชนิดเน้นรสชาติหวานและซ่า ในขณะที่บางชนิดเน้นรสชาติขมและสุขภาพ 

 

วิธีการทำ Counter-Positioning

  1. วิเคราะห์คู่แข่ง: ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน และกลยุทธ์ของคู่แข่งอย่างละเอียด
  2. ค้นหาช่องว่างในตลาด: หาสิ่งที่คู่แข่งยังไม่ได้ทำหรือทำได้ไม่ดี
  3. สร้างคุณค่าที่แตกต่าง: กำหนดคุณค่าที่แบรนด์จะมอบให้กับลูกค้า ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
  4. สื่อสารอย่างชัดเจน: สื่อสารจุดยืนที่แตกต่างนี้ให้ลูกค้าเข้าใจอย่างง่ายดาย

 

ข้อดีของ Counter-Positioning

  • สร้างความจดจำ: ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น
  • สร้างความภักดีต่อแบรนด์: ลูกค้าจะรู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจความต้องการของพวกเขาได้ดี
  • ลดความเสี่ยงจากการแข่งขัน: การอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจะทำให้แบรนด์ไม่ต้องแข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งรายใหญ่

 

ข้อควรระวัง

  • ต้องมีความแตกต่างที่ชัดเจน: หากความแตกต่างไม่ชัดเจน ลูกค้าอาจจะสับสน
  • ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์: จุดยืนที่แตกต่างต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • ต้องสื่อสารอย่างต่อเนื่อง: การสื่อสารจุดยืนที่แตกต่างต้องทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าจดจำ

 

สรุป

Counter-Positioning เป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างความแตกต่างและสร้างความสำเร็จให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การเข้าใจและนำกลยุทธ์นี้ไปใช้ จะช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จได้

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Brand CI คืออะไร? ทำไม Brand CI ถึงสำคัญกับธุรกิจ
Brand CI หรือ Corporate Identity คือ เอกลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้คนจดจำและเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
9 ม.ค. 2025
Brain Rot (สมองเน่า) ภัยเงียบในยุคดิจิทัล
สมองเน่า หรือ Brain Rot เป็นคำที่ใช้เปรียบเทียบภาวะที่ความสามารถทางสติปัญญาและสภาพจิตใจของบุคคลเสื่อมถอยลง เนื่องจากการบริโภคเนื้อหาที่
8 ม.ค. 2025
Framing Effect กับการเลือกซื้อสินค้า ตัวเลขที่มากกว่าคำพูด
Framing Effect หรือ เอฟเฟกต์กรอบความคิด เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการตลาดและการขายสินค้า
7 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ