ผลวิจัยเผยวัยรุ่น Gen Z เริ่มถอยห่างจาก Facebook แต่ Instagram ยังได้รับความนิยม
กลุ่มคนเจนแซด (Gen Z) ซึ่งเข้าถึงการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น เพียงแต่ว่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวนี้มีแนวโน้มเลิกใช้งานเฟซบุ๊ก เพราะไม่ได้พบคุณค่าในแพลตฟอร์มนี้ แต่ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่ออินสตาแกรม ยังคงครองใจวัยรุ่นได้
ศูนย์วิจัยพิว (Pew Research Center) เปิดเผยผลการศึกษาที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้งานโซเชียลมีเดียของวัยรุ่น โดยเฉพาะในกลุ่มเจนแซด พบตัวเลขว่า กลุ่มคนวัยที่มีอายุ 13-17 ปี มีเพียง 32 เปอร์เซ็นต์ที่ใช้งานเฟซบุ๊ก ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวเลขที่เคยเก็บข้อมูลในปี 2014-15 ในขณะนั้นวัยรุ่นใช้งานเฟซบุ๊กมากถึง 71 เปอร์เซ็นต์
เมื่อสืบเสาะสาเหตุที่ทำให้เฟซบุ๊กไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้งานเจนแซด เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถค้นหาคุณค่า (Value) จากแพลตฟอร์มของเฟซบุ๊ก
ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคที่เป็นวัยรุ่นก็มีตัวเลือกที่จะใช้งานแพลตฟอร์มมีเดียมากกว่าแต่ก่อน จึงทำให้เฟซบุ๊กไม่ใช่ตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวของผู้ใช้งานอีกต่อไป นอกเหนือจากนี้ เฟซบุ๊ก ยังดูจะเป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใหญ่มากกว่า ทำให้เจนแซดซึ่งมีอายุน้อยไม่สามารถยึดโยงตัวเองเข้ากับเฟซบุ๊กได้
แม้เฟซบุ๊กจะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่หนึ่งในใจของคนเจดแซด แต่อินสตาแกรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มภายใต้การดูแลของเมตา (Meta) บริษัทเดียวกับเฟซบุ๊ก กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับวัยรุ่น ตัวเลขผู้ใช้งานอินสตาแกรมของวัยรุ่นตอนนี้อยู่ที่ 62 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในปี 2014-15 ในเวลานั้นมีวัยรุ่นใช้งานเพียง 52 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
วัยรุ่นเมินเฟซบุ๊ก แต่ยังตอบรับอินสตาแกรม
Advertisements
Ads end in 00ทางด้าน ติ๊กต่อก (TikTok) คู่แข่งรายสำคัญของอินสตาแกรม ก็มีตัวเลขการใช้งานในกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่ต่างจากอินสตาแกรม โดยมีตัวเลขผู้ใช้งานในกลุ่มนี้ราว 67 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี ยูทูบ (YouTube) เป็นแพลตฟอร์มที่มีตัวเลขชัดเจนว่ามีผู้ใช้งานเยอะที่สุด ด้วยตัวเลข 95 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ว่า ยูทูบ ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการสร้างปฏิสัมพันธ์มากนัก เพราะท้ายที่สุดแล้วยูทูบถูกใช้งานในลักษณะสำหรับการรับชมวิดีโอ รวมถึงการฟังเพลงผ่านยูทูบ มิวสิก (YouTube Music)
การที่ ติ๊กต่อก มีตัวเลขการใช้งานที่สูงกว่าทั้งเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม ถึงตรงนี้น่าจะพอทำให้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่า ทำไมเมตาจึงมีความต้องการที่จะสร้างระบบนิเวศของตัวเองให้คล้ายกับติ๊กต่อก ดังจะเห็นได้จากความพยายามในการผลักดันฟีเจอร์ Reels ให้ปรากฏทั้งในอินสตาแกรม และเฟซบุ๊ก
ผลสำรวจสุดท้ายที่ ศูนย์วิจัยพิวหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น นั่นคือการเสพติดโซเชียลมีเดีย รวมไปถึงการติดหนึบอยู่กับสมาร์ทโฟนที่มากเกินไป กลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 45 เปอร์เซ็นต์ ให้คำตอบว่า พวกเขาไม่มีปัญหาใดๆ หากจะต้องเลิกใช้งานโซเชียลมีเดีย ขณะที่ 36 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับใช้งานโซเชียลมีเดียมากเกินไป และ 8 เปอร์เซ็นต์ที่ระบุว่า พวกเขาใช้งานโซเชียลมีเดียน้อยเกินไป
การใช้งานโซเชียลมีเดียในกลุ่มวัยรุ่น โดยเฉพาะในแง่ของการลดความนิยมของเฟซบุ๊กและการเติบโตของแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น อินสตาแกรม และติ๊กต่อก นั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่สามารถพิจารณาได้ดังนี้:
ข้อดีของการใช้โซเชียลมีเดีย:
การเชื่อมต่อและการปฏิสัมพันธ์: โซเชียลมีเดียช่วยให้วัยรุ่นสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อน ๆ และคนที่สนใจในเรื่องเดียวกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแนวคิดในกลุ่มที่มีความสนใจเหมือนกัน
แหล่งข้อมูลและการเรียนรู้: โซเชียลมีเดียเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้ ทั้งในด้านการศึกษาและการพัฒนาตนเอง
มีเนื้อหาที่หลากหลาย เช่น การเรียนออนไลน์, ช่องทางการเรียนรู้ด้านทักษะต่าง ๆ, และการแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต
การแสดงออกและสร้างแบรนด์ส่วนตัว: เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้วัยรุ่นสามารถแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของตนได้
ช่วยสร้างภาพลักษณ์หรือแบรนด์ส่วนตัวที่สามารถมีอิทธิพลในโลกออนไลน์
โอกาสในการประกอบอาชีพ: การใช้งานโซเชียลมีเดียสามารถเปิดโอกาสในการสร้างรายได้ เช่น การทำงานร่วมกับแบรนด์ต่าง ๆ หรือการขายสินค้าออนไลน์
ข้อเสียของการใช้โซเชียลมีเดีย:
การเสพติดและการใช้เวลามากเกินไป: วัยรุ่นอาจใช้เวลาในการเล่นโซเชียลมีเดียมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เสียเวลาในการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์หรือส่งผลกระทบต่อการเรียนและสุขภาพ
ความเสี่ยงจากการล่วงละเมิดหรือการกลั่นแกล้งออนไลน์: การใช้งานโซเชียลมีเดียอาจทำให้วัยรุ่นตกเป็นเป้าหมายของการกลั่นแกล้งออนไลน์ หรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวที่อาจส่งผลเสียต่อความเป็นส่วนตัว
การเปรียบเทียบและความวิตกกังวล: โซเชียลมีเดียมักนำเสนอภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบซึ่งอาจทำให้วัยรุ่นรู้สึกกดดันจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เป็นจริงสามารถนำไปสู่ความวิตกกังวลในเรื่องรูปลักษณ์หรือสถานะทางสังคม
การขาดการเชื่อมต่อในโลกจริง: แม้โซเชียลมีเดียจะช่วยในการเชื่อมต่อทางออนไลน์ แต่ก็อาจทำให้วัยรุ่นหลงลืมหรือเสียการติดต่อในชีวิตจริงกับเพื่อนหรือครอบครัวการสื่อสารที่ผ่านทางข้อความอาจทำให้ขาดความสัมพันธ์ที่มีความลึกซึ้ง
การรับข้อมูลที่ผิดหรือหลอกลวง: วัยรุ่นอาจได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือข่าวปลอม (Fake News) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจหรือทัศนคติในเรื่องต่าง ๆ
โดยสรุป การใช้โซเชียลมีเดียมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่การใช้งานในทางที่มีประโยชน์และมีความรับผิดชอบสามารถช่วยให้วัยรุ่นได้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อและการเรียนรู้ ขณะเดียวกันการใช้สติในการใช้งานและการดูแลความปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นได้.
BY : Tonkla
ที่มา : thairath.co.th