แชร์

ประวัติความเป็นมาของ Lalamove

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2024
503 ผู้เข้าชม
ประวัติความเป็นมาของ Lalamove

ต้นกำเนิดของลาลามูฟ

ต้นกำเนิดของ lalamoveอยู่ที่ฮ่องกง เดิมทีลาลามูฟเป็นบริการขนส่งภายในเมืองด้วยการใช้รถตู้เป็นหลักเพื่อส่งของไปตามซอกซอยต่างๆ ตอนนั้นใช้ชื่อว่า easyvan อธิบายการทำงานก่อนว่าพวกเค้าจะมีศูนย์รับข้อมูลเป็นคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นลูกค้าก็จะโทรเข้าไปสั่งงาน เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ก็จะสั่งงาน แจกงานไปยังกลุ่มรถตู้ในเครือเพื่อทำงานแล้วก็รับเงินค่าใช้จ่ายมา(จะเห็นว่าระบบนี้กลายเป็นพื้นฐานของการทำงานบนแอพพลิเคชั่นในยุคต่อมา) พวกเค้าเริ่มต้นธุรกิจนี้ในปี 2013 จากนั้นก็พัฒนาธุรกิจเรื่อยมาจนกระทั่งมีการแตกแขนงไปยังเมืองอื่นในประเทศเอเชียตอนนี้เค้ามีบริการถึง 100 เมืองทั่วเอเชีย มีการลงทะเบียนของลูกค้ามากถึง 15 ล้านคน(ทั้งหมด) แล้วมีผู้ขับขี่ขนส่งมากถึง สองล้านคนทั้งในรูปแบบรถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็ก และ รถมอเตอร์ไซค์

การเติบโตในประเทศไทย

จากความสำเร็จในช่วงแรกของฮ่องกง ทำให้ทาง lalamove ขยายสาขาไปในหลายประเทศหนึ่งในนั้นมีไทยด้วยจุดเด่นของลาลามูฟตอนที่เข้ามาไทยก็คือ การโปรโมตตัวเองเป็นคนที่รับส่งอาหารแทนที่พัสดุที่มีเจ้าตลาดหลายแห่ง แต่กับตลาดส่งอาหารยังมีน้อยอยู่ ลาลามูฟ เข้ามาพร้อมบริการทำให้เราสามารถสั่งอาหารมากินบนห้องได้เลย แบบไม่ต้องออกไปตรงไหน พร้อมกับค่าบริการที่ถูกแสนถูก ลองนึกภาพเราอยากกินผัดไทเจ้าดัง แต่กว่าจะอาบน้ำออกไปเจอรถติด (ยังไม่นับฝุ่นควัน) เชื่อเลยว่ากว่าจะได้กินหิวจนตาลายก่อน แต่ถ้าใช้บริการของลาลามูฟ เชื่อว่า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราได้กินเลยไม่ต้องรอนาน เอาเวลาที่จะไปกิน ไปทำอย่างอื่นได้ดีกว่าเยอะ หลายคนอาจจะคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ แต่ตอนนี้มันเป็นไปแล้วบริการรับส่งอาหารแบบถึงหน้าบ้านทำให้หลายคนเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองมาใช้บริการมากขึ้น

คีย์หลักความสำเร็จ

การเข้ามาตลาดรับส่งอาหารเดลิเวอรี่ อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มีขนส่งหลายเจ้าขยับเข้ามาเล่นในตลาดนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะว่ามันมีมูลค่ามากกว่าที่เราคิดเยอะมาก แต่ทำไมลาลามูฟถึงขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งได้ หนึ่งลาลามูฟมีเครือข่ายผู้ขับขี่เยอะมาก จากข้อมูลบอกว่าพื้นที่กรุงเทพ ปริมณฑลลาลามูฟมีคนขับรับส่งอยู่ที่ 40,000 คัน นั่นทำให้รองรับความต้องการที่เกิดขึ้นตลอดเวลาได้มากกว่า สองความรวดเร็วในการส่งของ ลาลามูฟ เค้าเคลมเอาไว้ว่าพวกเค้าสามารถรับส่งอาหาร หรือ สินค้าตามที่ต้องการได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากเทียบตรงนี้ถือว่าเร็วที่สุดในกลุ่มธุรกิจเดียวกัน เจอข้อนี้เข้าไปลูกค้าก็ชอบใจเป็นธรรมดา

จากคอลเซ็นเตอร์ สู่ แอพพลิเคชั่น

เราจะเห็นว่า ลาลามูฟ ในช่วงตั้งต้นนั้น พวกเค้าคุ้นเคยกับระบบการให้บริการแบบนี้มาก่อน แต่ยุคนั้นจะเป็นการใช้งานระบบคอลเซ็นเตอร์ มากกว่า แต่พอเทคโนโลยีเปลี่ยนการทำงานก็เปลี่ยนด้วย จากคอลเซ็นเตอร์ สู่ระบบแอพพลิเคชั่น ทำให้การทำงานของ ลาลามูฟ เค้าจะเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว ใช้งานง่าย หากเราเคยใช้งานแอพพลิเคชั่นของ ลาลามูฟ จะเห็นเลยว่าเค้าออกแบบมาดีมาก กดใช้สั่งงานอะไรง่ายเลย ด้วยความง่ายจึงไม่แปลกที่ ลาลามูฟ จะเป็นอีกหนึ่งบริการรับส่งสินค้า (โดยเฉพาะอาหาร)ที่คนเมืองชอบใช้กัน


แหล่งข้อมูล : https://www.autrans.net/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97-lalamove/

บทความที่เกี่ยวข้อง
ทำไมค่าขนส่งถึงแพงขึ้น?
ในยุคปัจจุบันที่การซื้อขายออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มรู้สึกว่าค่าขนส่งพัสดุมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยที่ทำให้ค่าขนส่งปรับตัวสูงขึ้นนั้นมีหลากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจโลก การบริหารต้นทุน และพฤติกรรมผู้บริโภค ดังนี้
25 พ.ย. 2024
รถ EV ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศไทย
รถ EV มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของไทยให้เป็นไปในทิศทางที่ยั่งยืน
25 พ.ย. 2024
สรุปจบ! การเปรียบเทียบประเภทการขนส่ง  ข้อดี ข้อเสีย และค่าใช้จ่าย
การขนส่งมีบทบาทสำคัญในการนำสินค้าจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยมี 5 ประเภทหลักที่ควรพิจารณา
23 พ.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ