แชร์

SEO สำหรับ E-COMMERCE

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2024
681 ผู้เข้าชม

SEO สำหรับ E-COMMERCE   

ทำให้แบรนด์ติดหน้าแรกโดยไม่ง้อ ADS       

จากข้อมูลสถิติของบริษัท SEO Backlinko พบว่าเพียง 0.63% เท่านั้นของผู้ใช้งานที่จะคลิกไปยังหน้าที่สองของผลการค้นหาบน Google ในขณะที่ผลการค้นหาบนหน้าแรกของ Google SERP มีอัตราการคลิกทั้งหมดถึง 27.6% ทำให้เห็นได้ชัดว่า SEO มีผลสำคัญอย่างมากจริงๆ

E-commerce Keyword Research

เช็ค Google Predictions เพื่อศึกษาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาและใช้เครื่องมือ Research Keyword Tools เพื่อเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ เป็นการสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Traffic และเติมความสนใจให้กับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น ด้วยการเลือกคีย์เวิร์ดที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณและเป็นตัวปิดจบให้กับการค้นหาของกลุ่มเป้าหมาย

Site Structure

เพื่อทำให้เว็บไซต์ง่ายต่อการเสิร์ช ควรให้ทุกหน้าโหลดเร็วและเข้าถึงได้ง่าย อย่างเช่นใช้เว็บไซต์ที่ไหลลื่นและไม่มีการติดขัด และเช็ก Page Indexing บน Google เพื่อตรวจสอบความเร็วในการเสิร์ชและการเข้าถึงเว็บไซต์ได้ง่ายๆ โดยอ้างอิงจากการเพิ่มลงในฐานข้อมูลของ Google สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดีขึ้นสำหรับผู้เยี่ยมชมและเพิ่มโอกาสในการเพิ่ม Traffic ของเว็บไซต์ของคุณ

On-Page SEO for E-Commerce

เพื่อสร้าง Highest-value Page บนเว็บไซต์ ควรโฟกัสในการจัดโครงสร้างหน้าเพจเพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเข้าถึงสินค้าและหมวดหมู่ได้ง่าย ๆ และการตั้งชื่อ URL ให้เกี่ยวข้องกับแบรนด์และคีย์เวิร์ด ใส่ Alt-text ในรูปภาพโปรดักเพื่อเพิ่มโอกาสในการเสิร์ช และใช้ Latent Semantic Indexing (LSI) เพื่อเสริมความสำคัญของโปรดักของแบรนด์ได้ในการเสิร์ช

Technical SEO

การทำ Search Engine Optimization มีเป้าหมายในการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อให้เหมาะสมกับการค้นหาของโปรแกรมตรวจสอบเว็บ (crawlers) มีความเร็วของเว็บไซต์ที่เหมาะสม และสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องบนมือถือ

Blogging

เมื่อเริ่มต้นบล็อกสำหรับ SEO ในอีคอมเมิร์ซ ให้โฟกัสที่สามองค์ประกอบต่อไปนี้
การวิเคราะห์และคัดเลือกคำค้นหาที่จะจัดอันดับ โพสต์เน้นเนื้อหาที่เป้าหมายที่คนจะค้นหาเพื่อแก้ปัญหาหรือช่วยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อสินค้า และปรับปรุงโพสต์บล็อกสำหรับ SEO ให้แน่ใจว่าแต่ละโพสต์มีเป้าหมายเฉพาะเพื่อ SEO และสามารถนำสินค้าของคุณเสนอเป็นทางออกจากปัญหา ไม่จำเป็นต้องทุกโพสต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณ แต่อย่าลืมที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าสินค้าที่เหมาะสม

Best E-commerce SEO Tools

1. Avada SEO & Image Optimizer

ปลั๊กอินตัวช่วยบูสต์ความเร็วของเว็บไซต์ โดยเฉพาะเวลาที่เข้าเว็บไซต์แล้วต้องพบกับโหลดดิง

2. SEOAnt

ตัวช่วยที่นิยามตัวเองว่าเป็น AI-Powered SEO เครื่องมือที่ช่วยให้ได้ยอด Traffic แบบออแกนิก เพื่อเว็บไซต์ถูกจัดอันดับอยู่ใน Ranking สูง ๆ รวมถึงยังช่วยประหยัดเวลา และขับเคลื่อนยอด Traffic ให้ดีขึ้นฟรีด้วย

3. Google Analytics 

หากแบรนด์ไหนมีเว็บไซต์ และอยากดูรายงานการวิเคราะห์ Google Analytics นับว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะเป็นเครื่องมือฟรีที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้ โดยเฉพาะอินไซต์ของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในด้านของ SEO และ ROI

4. Ahrefs

นับเป็นเครื่องมือ SEO ที่สาย E-Commerce Marketing ในต่างประเทศใช้กัน เพื่อสร้างแคมเปญที่มี SEO และช่วยให้เว็บไซต์จัดไปอยู่ในลำดับสูง ๆ บน Google ได้ โดย Ahrefs จะใช้วิเคราะห์ทั้งกับ Keyword Research สำหรับ Google, Amazon และ YouTube


ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : Shopify

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : จากข้อมูลสถิติของบริษัท SEO Backlinko... - Priceza Insights | Facebook


บทความที่เกี่ยวข้อง
9 ทักษะของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) คือ บุคคลซึ่งขายสินค้า หรือให้บริการในทางธุรกิจหรือวิชาชีพ ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะได้รับประโยชน์ หรือได้รับค่าตอบแทนหรือไม่ และไม่ว่าจะได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วหรือไม่ การเป็นผู้ประกอบการนั้นง่ายมาก
26 ธ.ค. 2024
ผลกระทบของ AI ต่อตลาดแรงงาน
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
26 ธ.ค. 2024
Google สู้ ChatGPT การแข่งขันของยักษ์ใหญ่ AI
การแข่งขันระหว่าง Google และ ChatGPT เป็นเรื่องที่น่าติดตาม เพราะจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
26 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ