แชร์

5 วิธีลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถขนส่งสินค้า

อัพเดทล่าสุด: 12 ก.ย. 2024
202 ผู้เข้าชม

     การลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถขนส่งสินค้าหมายถึงการดำเนินการเพื่อทำให้การใช้จ่ายในด้านน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิงและลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเติมน้ำมัน

     การเลือกใช้รถขนส่งสินค้าที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานและสภาพการขับขี่นั้นๆ โดยเฉพาะ ถือเป็นขั้นตอนแรกที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็นได้สูงสุด 

5 วิธีลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงของรถขนส่งสินค้า

1.เลือกประเภทของรถบรรทุกที่เหมาะสม

     การเลือกประเภทของรถบรรทุกที่เหมาะสมเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุุดสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก การเลือกประเภทของรถบรรทุกที่ตรงกับความต้องการสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสิทธิภาพและต้นทุนในการดำเนินงาน

     เลือกประเภทของรถบรรทุกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้งานแต่ละประเภท เพื่อให้มีค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงต่ำที่สุด โดยจะประมวลรูปแบบของการขับขี่ ถนนหนทางสภาพของพื้นที่ และจำลองน้ำหนักบรรทุกในระดับต่างๆ เพื่อเลือกสรรเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ชนิดของยาง และดอกยางที่เหมาะสม รวมไปถึงอัตราทดของเพลาท้ายที่มีความเหมาะสมที่สุด  รถบรรทุกที่มีกำลังเครื่องยนต์สูงเกินความจำเป็นก็อาจจะส่งผลให้อัตราสิ้น เปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเช่นกัน 

 

2.ซ่อมบำรุงรถขนส่งสินค้า

     สภาพสึกหรอจากการใช้งานอาจเป็นสาเหตุให้ สมรรถนะของรถบรรทุกค่อยๆเสื่อมถอยลงไป จึงควรตรวจสอบประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง รวมทั้งควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าระบบและการติดตั้งต่างๆ ยังคงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเหมือนเดิม 

     ดังนั้นการเข้ารับบริการตามกำหนด ยังช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนการดำเนินงานล่วงหน้าได้และสร้างผลกำไรจากการ ดำเนินงานได้สูงสุดอีกด้วยการเข้าศูนย์บริการนอกระยะกำหนดจะยิ่งทำให้สิ้น เปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นและมีผลกระทบต่อการให้บริการรถรับจ้างขนส่งสินค้าอีกด้วย

 

3. ใช้เชื้อเพลิงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

     รถบรรทุกจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ซึ่งรวมไปถึงการตรวจสอบระบบอากาศ ระบบหล่อเย็นและระบบเชื้อเพลิง ซึ่งระบบเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพนั้นจะ ช่วยลำเลียงเชื้อเพลิงไปใช้ในเครื่องยนต์ได้ราบรื่นและมีประสิทธิผล

     หากกรองเชื้อเพลิงหรือระบบอากาศอุดตันหรือสกปรกจะส่งผลให้ ปริมาณส่วนผสมระหว่างดีเซลกับอากาศไม่สม่ำเสมอ ส่วนผสมที่มีอากาศน้อยเกินไปต้องอาศัยเชื้อเพลิงมาช่วยในการจุดระเบิดมากขึ้น ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ความดันลมยาง และการตั้งศูนย์ล้อ ควรปรับให้มีความเหมาะสมกับสภาพการทำงานอาทิ สภาพพื้นที่ ระยะทางที่วิ่งเป็นต้น รถบรรทุกที่ประหยัดน้ำมันยังต้องการการหล่อลื่นอย่างสม่ำเสมอ มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่องตามระยะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการสูญเสียพลังงานที่เกิดจากความฝืดภายในเครื่องยนต์

 

4. ตัวหักเหอากาศของรถขนส่งสินค้า

      ระบบหักเหอากาศของรถขนส่งสินค้านั้นไม่เพียงแค่ปรับปรุงในเรื่องของดีไซน์ให้รถดูดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อการประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย ระบบหักเหอากาศสามารถช่วยลดลมต้านลงได้สูงสุดถึง 23% ซึ่งช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง การปรับปรุงในชิ้นส่วนอื่นๆก็สามารถลดการสิ้นเปลือง นอกจากนี้การถอดชิ้นส่วนสปอยเลอร์ ไฟส่องสว่าง และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ภายนอกห้องโดยสารที่ไม่จำเป็นออกไปช่วยลดแรงต้านและประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน

     ยกตัวอย่างเช่น ฝาครอบล้อ ซึ่งฝาครอบล้อที่ดีจะทำงานร่วมกับ ระบบหักเหอากาศ ช่วยลดการต้านทานอากาศได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำลง

 

5. อบรมขับขี่รถขนส่งสินค้า

     การจัดหลักสูตรฝึกอบรมผู้ขับขี่ที่เน้นเพื่อการประหยัดเชื้อเพลิง เป้าหมายระยะยาวคือการลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันลงให้ได้อย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์อย่างถาวรซึ่งบริษัทขนส่งสามารถลดค่าใช้จ่าย ด้านเชื้อเพลิงลงได้ตั้งแต่ห้าถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์หลังการจัดฝึกอบรมผู้ขับ ขี่ หากผู้ขับขี่นำเอาเทคนิคง่ายๆ ไปปฏิบัติอย่างจริงจังแล้วย่อมสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและการ ปล่อยไอเสียรวมถึงช่วยลดความตึงเครียดและความอ่อนล้าลงไปได้มาก กฎข้อแรกคือการคาดคะเนการจราจรข้างหน้าและใช้ประโยชน์จากพลังงานของรถให้มาก ขึ้น การขับขี่อย่าง นุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการเร่ง หรือการเบรคโดยไม่จำเป็นจะช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันลงไปได้มาก การเปลี่ยนเกียร์โดยไม่จำเป็นเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมหาศาล

     ดังนั้นในบางสถานการณ์ ผู้ขับขี่อาจเลือกที่จะใช้ความเร็วคงที่ในช่วงความเร็วที่ประหยัดน้ำมันในทางเรียบ เพื่อช่วยให้การเผาผลาญเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ หรือหากต้องการใช้กำลังจากเครื่องยนต์ให้เต็มสมรรถนะ ผู้ขับขี่สามารถเลี้ยงคันเร่งให้เต็มแถบสีเขียวบนมาตรวัดความเร็วได้

 

 

 

BY : NOON (CC)

ที่มาของข้อมูล : transport4thai.com , chatgpt.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
ควรบริหารธุรกิจต่อไปอย่างไรเมื่อเจอวิกฤตการเงิน
การบริหารธุรกิจในยามปกติก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว หากต้องเผชิญกับวิกฤตการเงินเพิ่มอีก
3 ธ.ค. 2024
รวม 8 แนวทางลดต้นทุนการผลิต เจ้าของธุรกิจปรับใช้ได้จริง
บทความนี้ได้รวบรวม 8 แนวทางลดต้นทุนการผลิตที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า
3 ธ.ค. 2024
โอกาสและอุปสรรคในตลาดขนส่งในประเทศไทย
ตลาดขนส่งมีทั้งโอกาสและอุปสรรค ผู้ประกอบการที่สามารถปรับตัว จะสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในตลาดนี้ได้
3 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ