แชร์

วิธีตั้งราคาแบบ Triple-Code จิตวิทยาการตั้งราคาที่เล่นกับสมองมนุษย์

อัพเดทล่าสุด: 7 ม.ค. 2025
11 ผู้เข้าชม

วิธีตั้งราคาแบบ Triple-Code จิตวิทยาการตั้งราคาที่เล่นกับสมองมนุษย์

 

Triple-Code Pricing เป็นกลยุทธ์การตั้งราคาที่อาศัยหลักจิตวิทยาในการรับรู้ของมนุษย์ โดยนำตัวเลข 3 ตัว มาจัดวางในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการได้ง่ายขึ้น

 

หลักการทำงานของ Triple-Code Pricing

หลักการสำคัญของวิธีนี้คือ การใช้ตัวเลข 3 ตัวมาเรียงกันในรูปแบบที่ดูสมเหตุสมผลและน่าสนใจ เช่น 9.99, 199, หรือ 299 บาท ตัวเลขเหล่านี้จะส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคในหลายระดับ ดังนี้

  • ระดับแรก: การรับรู้ สมองของมนุษย์จะรับรู้ตัวเลข 3 หลักได้ง่ายกว่าตัวเลข 4 หลัก ทำให้ราคาดูลดลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
  • ระดับที่สอง: การเปรียบเทียบ เมื่อเห็นตัวเลข 9 ในหลักหน่วย สมองจะเปรียบเทียบกับตัวเลขกลมๆ เช่น 10 หรือ 20 ทำให้รู้สึกว่าราคานี้ถูกกว่ามาก
  • ระดับที่สาม: การตัดสินใจ การใช้ตัวเลข 3 หลักจะสร้างความรู้สึกว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าและน่าสนใจ ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

 

ตัวอย่างการใช้ Triple-Code Pricing

  • ราคา 999 บาท: ดูเหมือนราคาจะใกล้เคียงกับ 900 บาท มากกว่า 1,000 บาท ทำให้รู้สึกว่าราคาถูกกว่า
  • ราคา 19.99 บาท: ดูเหมือนราคาจะใกล้เคียงกับ 19 บาท มากกว่า 20 บาท ทำให้รู้สึกคุ้มค่า
  • ราคา 299 บาท: ดูเหมือนราคาจะไม่ถึง 300 บาท ทำให้รู้สึกว่าราคาไม่แพง

 

เหตุผลที่ Triple-Code Pricing ได้ผล

  • จิตวิทยาการรับรู้: สมองของมนุษย์จะให้ความสำคัญกับหลักหน่วยมากกว่าหลักสิบและหลักร้อย
  • การเปรียบเทียบ: การเปรียบเทียบราคาทำให้รู้สึกว่าได้ส่วนลด
  • ความคุ้มค่า: การใช้ตัวเลข 3 หลักทำให้รู้สึกว่าราคานี้น่าสนใจและคุ้มค่า

 

ข้อควรระวังในการใช้ Triple-Code Pricing

  • ไม่ควรใช้กับสินค้าราคาสูง: สำหรับสินค้าราคาสูง การลดราคาเพียง 1 บาท อาจไม่ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อ
  • ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์: การตั้งราคาแบบนี้ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
  • ไม่ควรใช้บ่อยเกินไป: หากใช้บ่อยเกินไป ผู้บริโภคอาจจะรู้สึกเบื่อและไม่สนใจ

 

สรุป

Triple-Code Pricing เป็นกลยุทธ์การตั้งราคาที่อาศัยหลักจิตวิทยามาช่วยในการเพิ่มยอดขาย การเข้าใจหลักการทำงานของวิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดราคาสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
Counter-Positioning การสร้างจุดยืนที่แตกต่าง เพื่อเอาชนะคู่แข่ง
Counter-Positioning หรือ การวางตำแหน่งตรงข้าม เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ชาญฉลาด ซึ่งแบรนด์จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากคู่แข่งในตลาดเดียวกัน
8 ม.ค. 2025
Brain Rot (สมองเน่า) ภัยเงียบในยุคดิจิทัล
สมองเน่า หรือ Brain Rot เป็นคำที่ใช้เปรียบเทียบภาวะที่ความสามารถทางสติปัญญาและสภาพจิตใจของบุคคลเสื่อมถอยลง เนื่องจากการบริโภคเนื้อหาที่
8 ม.ค. 2025
Framing Effect กับการเลือกซื้อสินค้า ตัวเลขที่มากกว่าคำพูด
Framing Effect หรือ เอฟเฟกต์กรอบความคิด เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการตลาดและการขายสินค้า
7 ม.ค. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ