การตั้งราคาแบบ Loss Leader ล่อใจลูกค้าด้วยราคาต่ำ
อัพเดทล่าสุด: 22 ม.ค. 2025
6 ผู้เข้าชม
การตั้งราคาแบบ Loss Leader ล่อใจลูกค้าด้วยราคาต่ำ
การตั้งราคาแบบ Loss Leader (Loss Leader Pricing) คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่ธุรกิจตั้งราคาสินค้าบางรายการต่ำกว่าต้นทุน เพื่อดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าอื่นๆ ที่มีกำไรมากขึ้น โดยหวังว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมเมื่อมาที่ร้าน
ทำไมต้องใช้กลยุทธ์ Loss Leader?
- ดึงดูดลูกค้าใหม่: ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลองใช้บริการหรือสินค้า
- เพิ่มยอดขายสินค้าอื่นๆ: เมื่อลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าราคาถูก พวกเขามักจะซื้อสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การเป็นที่รู้จักในเรื่องราคาที่ถูก อาจช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
- เพิ่มการจราจรในร้านค้า: การลดราคาสินค้าบางรายการจะช่วยเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาในร้าน
ตัวอย่างของสินค้าที่มักใช้กลยุทธ์ Loss Leader
- สินค้าอุปโภคบริโภค: เช่น ไข่ไก่ นม น้ำอัดลม
- สินค้าอิเล็กทรอนิกส์: เช่น สายชาร์จ หูฟัง
- สินค้าประจำวัน: เช่น กระดาษทิชชู ยาสีฟัน
ข้อดีของการใช้กลยุทธ์ Loss Leader
- เพิ่มยอดขาย: สามารถเพิ่มยอดขายโดยรวมของธุรกิจได้
- สร้างความภักดีของลูกค้า: ลูกค้าจะรู้สึกว่าได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้า
- สร้างการรับรู้แบรนด์: ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ข้อเสียของการใช้กลยุทธ์ Loss Leader
- ลดกำไร: การขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุนจะทำให้ธุรกิจขาดทุนในส่วนของสินค้าเหล่านั้น
- กระตุ้นการแข่งขันด้านราคา: คู่แข่งอาจลดราคาตามมา
- ลูกค้าอาจซื้อเฉพาะสินค้าราคาถูก: ลูกค้าอาจจะไม่สนใจซื้อสินค้าอื่นๆ ที่มีกำไร
เมื่อไรควรใช้กลยุทธ์ Loss Leader
- เมื่อต้องการเพิ่มยอดขาย: ถ้าธุรกิจต้องการเพิ่มยอดขายโดยรวม
- เมื่อมีสินค้าใหม่: ใช้สินค้าใหม่เป็นตัวล่อเพื่อให้ลูกค้าได้ลองใช้
- เมื่อต้องการแข่งขันกับคู่แข่ง: ใช้เพื่อดึงลูกค้าจากคู่แข่งมา
- เมื่อมีสินค้าคงคลังมากเกินไป: ใช้เพื่อเคลียร์สินค้าคงคลัง
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนใช้กลยุทธ์ Loss Leader
- ต้นทุน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าธุรกิจสามารถรับภาระต้นทุนที่สูญเสียได้
- กลุ่มเป้าหมาย: เลือกสินค้าที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
- คู่แข่ง: วิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่ง
- ผลกระทบระยะยาว: พิจารณาผลกระทบระยะยาวต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
การตั้งราคาแบบ Loss Leader เป็นกลยุทธ์ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความสนใจให้กับธุรกิจได้ แต่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
Barter Media หรือการตลาดแบบแลกเปลี่ยน คือ วิธีการทำการตลาดที่ธุรกิจนำสินค้าหรือบริการของตัวเองไปแลกเปลี่ยนกับสื่อโฆษณาหรือบริการทางการตลาดของอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่มีการใช้เงินสดเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม
22 ม.ค. 2025
Direct-to-Customer (D2C) เป็นรูปแบบธุรกิจที่ผู้ผลิตสามารถส่งสินค้าตรงไปยังลูกค้าโดยไม่ต้องผ่านตัวกลางหรือขั้นตอนที่มากหมายเหมือนในอดีตที่เคยทำกันมา
22 ม.ค. 2025
การตลาดความทรงจำ หรือ Nostalgia Marketing คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่อาศัยการกระตุ้นความรู้สึกคิดถึง อดีต ความทรงจำดีๆ ในอดีตของผู้บริโภค เพื่อสร้างความผูกพันและกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ
21 ม.ค. 2025