แชร์

โฟล์คลิฟท์ คืออะไร? ประโยชน์ในการใช้งาน

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(ฝ่ายวางแผน)
อัพเดทล่าสุด: 24 ก.พ. 2025
54 ผู้เข้าชม

โฟล์คลิฟท์ คืออะไร?
โฟล์คลิฟท์ หรือ Forklift คือ ยานพาหนะอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเพื่อยกและเคลื่อนย้ายวัสดุที่มีหนัก เช่น พาเลทสินค้าหรือกล่องผลิตภัณฑ์ เพื่อลำเลียงไปยังปลายทางในระยะสั้น ๆ โดยเฉพาะในคลังสินค้า โรงงาน และพื้นที่อุตสาหกรรม ลักษณะเด่นของ โฟล์คลิฟท์ คือมีงา (Forks) ที่ยื่นออกมาด้านหน้า ใช้สำหรับสอดเข้าใต้พาเลทหรือสินค้าเพื่อยกขึ้น

โฟล์คลิฟท์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานหลายรูปแบบ เช่น เครื่องยนต์ดีเซล แก๊ส LPG หรือแบตเตอรี่ไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับประเภทและการใช้งาน โดยทั่วไปสามารถยกน้ำหนักได้ตั้งแต่ 1 ตัน ไปจนถึง 50 ตัน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับการออกแบบและการวางจุดศูนย์ถ่วง ส่งผลให้โฟล์คลิฟล์เป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นสูงในการจัดการวัสดุขนาดใหญ่และหนักภายในคลังสินค้า


โฟล์คลิฟท์ ถือเป็นเครื่องมือหลักที่ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น 
คลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า  ใช้ในการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้าบนชั้นวางพาเลท
โรงงานอุตสาหกรรม  ช่วยในการขนย้ายวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
ท่าเรือและสนามบิน  ใช้ในการขนถ่ายสินค้าจากตู้คอนเทนเนอร์
อุตสาหกรรมก่อสร้าง  ช่วยในการเคลื่อนย้ายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่
ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่  ใช้ในการจัดการสต็อกสินค้าในคลังและพื้นที่จัดเก็บ
ธุรกิจเกษตรกรรม  ใช้เคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์ในโกดังหรือลานกว้างอย่างผลไม้ และพืชผลต่าง ๆ
 

ส่วนประกอบสำคัญของ โฟล์คลิฟท์
โฟล์คลิฟท์ มีหลากหลายประเภท และมีชิ้นส่วนอะไหล่แตกต่างกัน ถึงอย่างนั้น โฟล์คลิฟท์ ก็มีส่วนประกอบสำคัญและจำเป็นต่อการใช้งาน ดังนี้
โครงรถ  เป็นโครงสร้างหลักที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ ทั้งหมด ประกอบไปด้วย ล้อ ห้องโดยสาร และงา ซึ่งขนาดของโครงรถจะแตกต่างกันไปตามประเภทการใช้งานและน้ำหนักสินค้าที่สามารถรองรับได้
เสาค้ำ (Mast)  โครงสร้างแนวตั้งที่เป็นยึดระหว่างแผงงากับตัวรถ พร้อมทำหน้าที่เป็นรางเลื่อนสำหรับการยกงาขึ้นลง
แผงงา  ยึดติดกับโครงรถ โฟล์คลิฟท์ มีหน้าที่ในการยึดจับงาซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่กับเสาค้ำ เพื่อให้สามารถยกเสาขึ้นลงได้ง่าย
ตัวถ่วงน้ำหนัก  ตัวถ่วงน้ำหนัก หรือ Counterweight เป็นชิ้นส่วนที่ติดอยู่กับส่วนหลังของรถ มีหน้าที่ในการถ่วงต้านน้ำหนักของพาเลทหรือสินค้าที่ต้องการยก เพื่อสร้างสมดุลและป้องกันไม่ให้รถคว่ำ
เครื่องยนต์และแบตเตอรี่  ส่วนประกอบสำคัญของเครื่องยนต์ที่ส่งผลต่อการทำงานโดยตรง ซึ่ง โฟล์คลิฟท์ มีลักษณะเครื่องยนต์หลายรูปแบบ ทั้งแบบเบนซิน ดีเซล และระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
 



ประเภทของ โฟล์คลิฟท์

เมื่อกล่าวถึงที่ใช้งานภายในโกดังเก็บสินค้า หรือทำงานร่วมกับระบบจัดการพาเลท สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ โฟล์คลิฟท์ เครื่องยนต์สันดาป และ โฟล์คลิฟท์ ไฟฟ้า

1. โฟล์คลิฟท์ เครื่องยนต์สันดาป (Engine Forklift)

คือ โฟล์คลิฟท์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน ซึ่งอาศัยแหล่งเชื้อเพลิงแตกต่างกันไป อาทิ น้ำมันเบนซิน ดีเซล หรือแก๊ส LPG และ CNG ซึ่งรถ โฟล์คลิฟท์ รูปแบบนี้จะเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่เปิดหรือกลางแจ้งที่มีระบายอากาศเพียงพอ โดยมีข้อได้เปรียบคือ สามารถยกของหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เติมเชื้อเพลิงได้สะดวก ทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง

2. โฟล์คลิฟท์ ไฟฟ้า (Electric Forklift)

โฟล์คลิฟท์ไฟฟ้าจะใช้แหล่งพลังงานที่มาจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันที่มีต้นทุนสูง ปลอดภัยมากกว่าเครื่องยนต์สันดาป และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้งานในพื้นที่ปิดอย่างโกดังสินค้าได้ นอกจากนี้ แบตเตอรี่สำหรับโฟล์คลิฟท์ไฟฟ้ายังแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion Battery) และแบตเตอรี่กรดตะกั่ว (Lead Acid Battery) ซึ่งมีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป

ทั้งนี้ หากแบ่ง โฟล์คลิฟท์ ตามประเภทการใช้งาน จะสามารถแบ่งออกเป็นรูปแบบย่อยได้หลากหลาย อาทิ 

โฟล์คลิฟท์แบบนั่งขับ  รถแบบนั่งขับเหมาะกับการขนถ่ายพาเลทลงจากรถ มีงาคู่ยื่นออกมาทางด้านหน้า มักนิยมใช้งานภายในคลังสินค้าต่าง ๆ 
โฟล์คลิฟท์ Side Loader  เป็นรถแบบนั่งขับ เหมาะสำหรับการถ่ายสินค้าในพื้นที่แคบ มักถูกใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเหล็ก ไม้ อะลูมิเนียม อีกทั้งยังใช้ยกผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนัก หรือมีขนาดยาวมาก
โฟล์คลิฟท์ Rough Terrain  เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ขรุขระงานกลางแจ้ง งานก่อสร้าง เพราะมียางรถขนาดใหญ่ และแข็งแรง
โฟล์คลิฟท์ Telehandler  รถที่มีระยะเอื้อม มีบูมและแขนที่ยืดออกได้ เป็นการผสมระหว่างรถเครน และ โฟล์คลิฟท์ เข้าด้วยกัน สามารถยกของหนักและมีความสูงมากได้ มักใช้ในงานก่อสร้างและคลังสินค้าที่มีพื้นที่กว้าง หรือมีชั้นวางของที่สูง
 



ประโยชน์ของ โฟล์คลิฟท์ ในด้านโลจิสติกส์
จากความนิยมในอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ กล่าวได้ว่า ประโยชน์ของรถ โฟล์คลิฟท์ นั้นมีหลายประการ ซึ่งเอื้ออำนวยการดำเนินธุรกิจในหลายด้าน ดังนี้
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
โฟล์คลิฟท์ สามารถยกและเคลื่อนย้ายสินค้าได้รวดเร็วกว่าแรงงานคนหลายเท่า ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มผลผลิต เช่น ในขณะที่คนงาน 4 5 คนอาจใช้เวลานานในการเคลื่อนย้ายพาเลทสินค้าหนัก 1 ตัน โฟล์คลิฟท์สามารถทำงานเดียวกันได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ โฟล์คลิฟท์ ยังสามารถทำงานต่อเนื่องได้นานกว่าโดยไม่เหนื่อยล้า ส่งผลให้การดำเนินงานในคลังสินค้ามีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ประหยัดต้นทุนในระยะยาว
แม้ว่าการลงทุนซื้อหรือเช่า โฟล์คลิฟท์ จะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูง แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก โดยลดความจำเป็นในการจ้างแรงงานจำนวนมาก ลดค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ และลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบาดเจ็บจากการยกของหนัก นอกจากนี้ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นยังช่วยให้ธุรกิจสามารถรับมือกับปริมาณงานที่มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนแรงงาน

เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โฟล์คลิฟท์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการยกของหนักด้วยแรงคน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บในคลังสินค้าและโรงงาน โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่หลังและข้อต่อ อีกทั้งการใช้ โฟล์คลิฟท์ ช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุจากการตกหล่นของสินค้าหนัก พร้อมช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องรองรับความเสี่ยงในการบาดเจ็บจากการยกของหนักเกิน

ใช้พื้นที่คลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ
โฟล์คลิฟท์ สามารถยกสินค้าขึ้นไปจัดเก็บในชั้นวางพาเลทที่สูงได้ ช่วยให้ใช้พื้นที่ในแนวดิ่งได้มากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความจุของคลังสินค้าโดยไม่ต้องขยายพื้นที่ในแนวราบ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า การจัดเก็บในแนวตั้งยังช่วยให้การจัดการสต็อกมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถมองเห็นและเข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้น ลดเวลาในการค้นหาและเบิกจ่ายสินค้า

รองรับระบบจัดการพาเลท
โฟล์คลิฟท์ ทำงานร่วมกับชั้นวางพาเลทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการจัดการและติดตามสินค้าในคลัง การใช้ โฟล์คลิฟท์ ร่วมกับระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) ช่วยให้การติดตามสถานะและตำแหน่งของสินค้าเป็นไปอย่างแม่นยำ ลดเวลาในการค้นหาสินค้า และช่วยให้การจัดการสต็อกมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ลดความเสียหายของสินค้า
การใช้โฟล์คลิฟท์ ช่วยลดความเสี่ยงจากการตกหล่นหรือเสียหายของสินค้าระหว่างการขนย้าย เนื่องจาก โฟล์คลิฟท์ มีความมั่นคงและแม่นยำในการยกและเคลื่อนย้ายสินค้า ต่างจากการขนย้ายด้วยแรงคนที่อาจเกิดความผิดพลาดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานเป็นเวลานานหรือกับสินค้าที่มีน้ำหนักมาก

เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน
โฟล์คลิฟท์ สามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมเพื่อรองรับงานที่หลากหลาย เช่น การใช้งาแบบหนีบ (Clamp) สำหรับยกวัสดุทรงกลมหรือแปลกรูป การใช้แขนยกด้านข้าง (Side Shifter) เพื่อจัดการกับพาเลทในพื้นที่แคบ หรือการใช้อุปกรณ์ยกแบบหมุน (Rotator) สำหรับการเทสินค้าออกจากภาชนะ ซึ่งความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับสินค้าหลากหลายประเภทได้โดยใช้อุปกรณ์ชิ้นเดียว ลดความจำเป็นในการลงทุนซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางหลายชนิด

เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ
การใช้ โฟล์คลิฟท์ ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับปริมาณงานที่มากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น และมีความยืดหยุ่นในการรับมือสินค้า ส่งผลให้ธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น สามารถรองรับงานได้หลากหลายมากขึ้น และสร้างโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ

สรุป โฟล์คลิฟท์ เป็นอุปกรณ์โลจิสติกส์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ด้วยความสามารถในการยกและเคลื่อนย้ายสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนัก โฟล์คลิฟท์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และยกระดับความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการระบบโลจิสติกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับความท้าทายในด้านการค้าและการขนส่งที่มีการแข่งขันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ประกอบการคลังสินค้าหรือธุรกิจที่มีคลังเป็นของตัวเอง บริษัท ยูพีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดจำหน่ายอุปกรณ์โลจิสติกส์ครบครัน ทั้งพาเลทไม้และพลาสติกสำหรับเช่า/ซื้อ ชั้นวางพาเลท อุปกรณ์จัดเก็บรูปแบบต่าง ๆ รวมไปถึงบริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย และสามารถทำงานร่วมกับรถ โฟล์คลิฟท์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

BY : Tonkla

ที่มา : https://www.upr-thailand.co.th/


บทความที่เกี่ยวข้อง
Maglev Train: เทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงด้วยแรงแม่เหล็ก
Maglev Train: เทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูงด้วยแรงแม่เหล็ก
Notify.png พี่ปี
14 มี.ค. 2025
บทบาทและประโยชน์ของ Blog ในการจัดการความรู้ผ่านเว็ปไซต์
บทบาทและประโยชน์ของ Blog ในการจัดการความรู้ผ่านเว็ปไซต์
Notify.png พี่ปี
14 มี.ค. 2025
เปิดเฟรนไชส์ขนส่งให้รอดในปีแรก ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
การเปิดเฟรนไชส์ขนส่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ แต่ก็เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะในปีแรกที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันสูง ต้นทุนที่ต้องบริหารจัดการ และความคาดหวังของลูกค้า หากต้องการให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้อย่างมั่นคง นี่คือสิ่งที่ต้องเตรียมตัว
ร่วมมือ.jpg Contact Center
14 มี.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ