กฏหมายบุหรี่ไฟฟ้า ประเทศไทย
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2557 กำหนดให้บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้า หรือทั้งจำทั้งปรับ และริบสินค้า รวมถึงพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกสินค้านั้น
คำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558:ห้ามขายหรือให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาเติม
ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า ซื้อ ขาย หรือครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า
ผู้ที่ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ ซึ่งของที่รู้ว่าเป็นความผิดตามมาตรา 246 ของ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560:ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่
หากมีสารนิโคตินเป็นส่วนประกอบ อัตราโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
โดยสรุปแล้ว กฎหมายไทยห้ามการนำเข้า การขาย และการให้บริการบุหรี่ไฟฟ้า ผู้ฝ่าฝืนอาจได้รับโทษทั้งจำคุกและปรับ นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเขตปลอดบุหรี่ยังเป็นความผิดตามกฎหมายอีกด้วย
รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน
มีการกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดออฟไลน์และออนไลน์
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า และเน้นย้ำให้สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่ไฟฟ้า