Value Chain หรือ ห่วงโซ่คุณค่า คืออะไร
องค์ประกอบของ Value Chain
Value Chain หรือ ห่วงโซ่คุณค่า คือ ภาพรวมของกระบวนการในองค์กรที่เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้า โดยที่แต่ละขั้นตอนนั้นสามารถสร้างคุณค่า (Value) ให้กับองค์กรและสินค้าอย่างไม่มีปัญหา ซึ่งห่วงโซ่คุณค่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์คู่แข่งของธุรกิจได้ด้วย โดยการเปรียบเทียบแต่ละขั้นตอนของคู่แข่งว่าคู่แข่งสามารถทำได้ดีกว่า หรือมีขั้นตอนอะไรที่น่าสนใจและสามารถนำมาปรับใช้กับองค์กรของเราได้บ้าง
การวิเคราะห์เพื่อหา Value Chain ในองค์กรนั้นเป็นสิ่งที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้เป็นอย่างมาก และไม่จำเป็นต้องเพิ่มต้นทุน อีกทั้งการวิเคราะห์นี้ช่วยให้องค์กรสามารถลดต้นทุนในขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มคุณค่าแต่ใช้จ่ายน้อยลงได้อีกด้วย เปรียบเหมือนกับเราได้ตัดส่วนที่ไม่จำเป็น และเพิ่มขั้นตอนหรือกระบวนการที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้
โดย Value Chain หรือห่วงโซ่คุณค่าจะแบ่งกิจกรรมที่สร้างคุณค่าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กิจกรรมหลัก (Primary Activities) และ กิจกรรมสนับสนุน (Support Activities) ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรียกว่า Value Chain จากการที่ทุกกิจกรรมมีความสัมพันธ์กันเหมือนห่วงโซ่
Value Chain แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก:
1.กิจกรรมหลัก (Primary Activities): กิจกรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างและส่งมอบสินค้าและบริการ ประกอบด้วย:
- Inbound Logistics: การจัดการวัตถุดิบและส่วนประกอบต่าง ๆ ที่เข้ามาสู่กระบวนการผลิต
- Operations: กระบวนการผลิตหรือการดำเนินการที่แปลงวัตถุดิบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
- Outbound Logistics: การจัดการการจัดเก็บสินค้าและการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้า
- Marketing & Sales: กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการตลาด การขาย และการโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้า
- Service:การให้บริการหลังการขายเพื่อรักษาความพึงพอใจของลูกค้า เช่น บริการซ่อมบำรุงและบริการลูกค้า
2. กิจกรรมสนับสนุน (Support Activities): กิจกรรมที่สนับสนุนกิจกรรมหลักเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประกอบด้วย:
- Procurement: การจัดหาและจัดการวัตถุดิบและทรัพยากรที่จำเป็น
- Technology Development: การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยในการปรับปรุงสินค้าและกระบวนการ
- Human Resource Management: การบริหารทรัพยากรบุคคล เช่น การสรรหาและพัฒนาพนักงาน
- Firm Infrastructure: การจัดการโครงสร้างพื้นฐานขององค์กร เช่น การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การเงิน และการบริหารจัดการทั่วไป
ประโยชน์ของการวิเคราะห์ Value Chain
การปรับปรุงประสิทธิภาพ: ช่วยให้บริษัทสามารถระบุขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือมีประสิทธิภาพต่ำ เพื่อปรับปรุงและลดต้นทุน
- สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน: ช่วยให้องค์กรสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการของตน และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
- การระบุโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่ม: ช่วยให้บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการ
โดยสรุป Value Chain เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของตนผ่านการวิเคราะห์กระบวนการภายในทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
BY : AUEY KA
ที่มา : CHAT GPT