แชร์

ประกันภัยสินค้าคุ้มครองอะไรบ้าง ?

อัพเดทล่าสุด: 21 ก.ย. 2024
77 ผู้เข้าชม
ประกันภัยสินค้าคุ้มครองอะไรบ้าง ?

ประกันภัยสินค้า หรือ ประกันภัยการขนส่ง เป็นการคุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสียที่เกิดขึ้นกับสินค้าระหว่างการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ซึ่งความคุ้มครองนั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทของกรมธรรม์และบริษัทประกันที่คุณเลือก แต่โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยสินค้าจะให้ความคุ้มครองในเรื่องต่อไปนี้ค่ะ

ความคุ้มครองหลักๆ ของประกันภัยสินค้า

ความเสียหายทางกายภาพ:

  • สินค้าเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น การชน การตก การกระแทก
  • สินค้าเสียหายจากสภาพอากาศ เช่น พายุ ฝนตก น้ำท่วม
  • สินค้าเสียหายจากการขนย้าย เช่น รอยขีดข่วน รอยบุบ

การสูญหาย:

  • สินค้าสูญหายทั้งหมดหรือบางส่วนระหว่างการขนส่ง
  • สินค้าถูกขโมย

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม:

  • ค่าใช้จ่ายในการเคลมประกัน
  • ค่าใช้จ่ายในการกู้คืนสินค้า
  • ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบสินค้า

ความเสียหายทั่วไป (General Average):

  • เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่จงใจเพื่อรักษาความปลอดภัยของเรือและสินค้าทั้งหมด เช่น การทิ้งสินค้าลงทะเลเพื่อช่วยให้เรือลอยตัวได้
  • ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตามสัดส่วนของมูลค่าสินค้าที่เอาประกันภัย

ประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยสินค้า

  • กรมธรรม์แบบ A (Institute Cargo Clauses (A)): ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด โดยคุ้มครองความเสี่ยงภัยเกือบทุกชนิด
  • กรมธรรม์แบบ B (Institute Cargo Clauses (B)): ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าแบบ A โดยจะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุภายใน เช่น การบูดเน่า เสื่อมสภาพ
  • กรมธรรม์แบบ C (Institute Cargo Clauses (C)): ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด โดยจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ที่รุนแรง เช่น อัคคีภัย การระเบิด การจม

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคุ้มครองและเบี้ยประกัน

  • มูลค่าของสินค้า: ยิ่งมูลค่าของสินค้าสูง เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
  • เส้นทางการขนส่ง: เส้นทางการขนส่งที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การขนส่งทางทะเลระยะไกล ก็จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่า
  • ประเภทของสินค้า: สินค้าที่เปราะบางหรือมีมูลค่าสูง จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป
  • เงื่อนไขความคุ้มครอง: เงื่อนไขความคุ้มครองที่แตกต่างกันก็จะส่งผลต่อเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำประกันภัยสินค้า

  • อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด: ก่อนตัดสินใจทำประกัน ควรอ่านกรมธรรม์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อทราบสิทธิและความรับผิดชอบของตนเอง
  • เปรียบเทียบราคาและความคุ้มครอง: ควรเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากหลายๆ บริษัทประกัน เพื่อเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย เพื่อขอคำแนะนำ

การทำประกันภัยสินค้าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ดี หากคุณมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรือนำเข้าสินค้า การทำประกันภัยจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น สินค้าของคุณจะได้รับการคุ้มครอง




BY: Theeratepplai

ที่มา: Gemini

บทความที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนในการเริ่มต้นธุรกิจขนส่งมีอะไรบ้าง
การทำธุรกิจขนส่งอาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีศักยภาพสูง แต่ก็ต้องมีการวางแผนและการดำเนินการที่รอบคอบเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการสำเร็จ
22 ต.ค. 2024
แอปพลิเคชั่น Didi Chuxing
Didi Chuxing เป็นหนึ่งในบริการเรียกรถที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญในประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้การเดินทางในเมืองเป็นไปอย่างสะดวก
21 ต.ค. 2024
Uber Freight แอปที่ช่วยเชื่อมโยงผู้ขนส่งสินค้ากับผู้ส่งสินค้า
Uber Freight เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเชื่อมโยงผู้ขนส่งสินค้ากับผู้ส่งสินค้า โดยมีลักษณะคล้ายกับบริการ Uber สำหรับผู้โดยสาร
18 ต.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ